ฝ่ายค้านวิพากษ์แก้รธน. พลวัตแก้ชายแดนใต้

หมายเหตุ – แกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ร่วมเวทีเสวนา เรื่อง พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรม 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชนสัญจร ครั้งที่ 4 ที่ลานวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี

วันมูหะมัดนอร์ มะทา
หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.)

ขอคารวะชาวปัตตานีที่ลงประชามติไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้สูงที่สุดในประเทศไทย รวมถึงชาวยะลาและนราธิวาส ที่ไม่รับรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน วันนี้ปรากฏชัดว่าวิสัยทัศน์ของคน 3 จังหวัดกว้างไกล เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่ามีปัญหา เรารู้ว่าเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหนและพยายามช่วยกันแก้ ส่วนตัวมองว่าทั้งรัฐธรรมนูญและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีปัญหาพอๆ กัน แต่ไม่รู้จะแก้รัฐธรรมนูญหรือไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปก่อนดี แต่ส่วนตัวอยากเรียกร้องว่าขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก เพราะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา ถ้าท่านยังดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป โอกาสการแก้ปัญหาของประเทศจะมืดมน โอกาสการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะลำบาก เรา 3 จังหวัดยากจนจนเคยชินแล้ว ขออย่าให้คนในประเทศที่เหลือยากจนจนต้องกอดคอกันตาย ปัญหาของประเทศไม่ใช่ปัญหาของประชาชนไม่รักประเทศไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่ปัญหาของประเทศเราอยู่ที่ผู้นำและองคาพยพที่ค้ำจุนรัฐบาลนี้ ส่วนตัวเห็นว่าประชาธิปไตยของประเทศจะเบ่งบานขึ้นหาก พล.อ.ประยุทธ์เสียสละลาออก เมื่อท่านลาออกแล้วเชื่อว่าองค์กรอิสระต่างๆ จะทำงานได้อิสระขึ้น กระบวนการยุติธรรมจะไม่ถูกแทรกแซง จะทำงานได้อิสระมากยิ่งขึ้น

Advertisement

ที่สำคัญถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ส.ว.จะได้เลิกทำหน้าที่ทดแทนบุญคุณที่เลือกเขามาเขาจะได้ใช้สติปัญญาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แก้ไขกฎหมายให้ประชาชนได้ประโยชน์ เชื่อว่า ส.ว.มีสมองสติปัญญา แต่บุญคุณค้ำหัวอยู่ ดังนั้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรลาออก

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

Advertisement

พวกเราทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้านอยากเสาะหาข้อมูล ความคิดความอ่าน และปัญหาของพี่น้องประชาชนเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง ตั้งแต่ที่เรามีการเลือกตั้งเป็นต้นมา ได้ผู้แทนราษฎร แต่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อให้เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้เลย นี่คือความผิดเพี้ยนของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมา ทั้งนี้ เรื่องรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องหาคนออกมาพูด มาบอกกล่าว เราต้องมั่นคง และหาแนวทางในการแก้ไข อย่างพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่แสดงจำนงในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 60 แบบเททั้ง 3 จังหวัด เราเองเสียอีกที่กลับเป็นคนมีความรู้สึกช้า และไม่สามารถอธิบายถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญได้แบบที่ผู้ใหญ่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ เพราะขณะนั้นมีทั้งกฎอัยการศึก และมีทั้งกฎต่างๆ ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลยสำหรับการรณรงค์ หรือการจัดเวทีดีเบตเรื่องรัฐธรรมนูญในพื้นที่ต่างๆ รัฐบาลและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหาเสียงอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ได้คะแนนเสียงมาเพียง 15 ล้านกว่าเท่านั้น

จากนี้ผมจึงอยากฝากพวกท่านในฐานะแม่บทในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญผลักดันให้รัฐบาลมีแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป

นิคม บุญวิเศษ
หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย

แม้นายกฯจะพูดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่บริหารงาน จนได้รัฐธรรมนูญ 60 มา กลับบิดเบือนเจตนารมณ์ประชาชน จนได้นายกฯคนเดิม โดยการใช้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมาร่วมเลือกนายกฯด้วย ทั้งนี้ การที่เราอยู่ร่วมกันแล้วมีความขัดแย้งนั่นเกิดจากเพราะเราไม่ได้รับความเป็นธรรม คนทำดีอยู่ไม่ได้ แต่คนที่ทำไม่ถูก หรือทำผิดกฎหมายกลับอยู่ได้ นี่คือสิ่งที่เราคาใจ และแม้บ้านเมืองจะสงบ ก็ไม่ได้สงบเพราะมีความสงบ แต่สงบเพราะเรากลัว กลัวที่จะถูกกฎหมายมาบังคับใช้กับเรา ในขณะที่ฝั่งเดียวกันกับเขาไม่ว่าจะทำผิดอย่างไรก็ไม่ถูกนำไปลงโทษ องค์กรอิสระก็ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่เหนือองค์กรเหล่านี้ ดังนั้น เราจะทำอย่างไรก็ได้ให้รัฐธรรมนูญมาจากประชาชน ให้อำนาจประชาชนให้ได้

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.)

ผมขอเริ่มจากอะไรที่จับต้องได้ และทุกท่านเกี่ยวข้อง นั่นคือการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ 2 ซิม โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ระบุว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน การกระทำใดๆ ที่ทำให้ล่วงรู้ หรือได้มาซึ่งข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกันจะกระทำมิได้ และเพื่อรับรองสิทธิเสรีภาพตามมาตรา 36 ในมาตรา 26 ก็ระบุให้การคุ้มครองประชาชนไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้สัมภาษณ์ว่าการลงทะเบียน 2 ซิม และไม่ผิดกฎหมาย เพราะจะลงหรือไม่ลงก็ได้ แต่ถ้าไม่ลงโทรศัพท์จะใช้การไม่ได้ ซิมการ์ดจะใช้ไม่ได้ นี่คือการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างชัดเจน นี่คือการบีบบังคับ ให้ต้องทำ ปัญหาคือ ทำไมประเทศไทยมีกลุ่มบุคคลหนึ่งที่สามารถทำอะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือขัดกฎหมายแล้วไม่ถูกลงโทษ หรือถูกดำเนินการทางกฎหมาย ถ้าเป็นพวกเราออกแบบนี้บ้างป่านนี้ติดคุกไปแล้ว

รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจกับกลุ่มบุคคลหนึ่งพิเศษ อยู่เหนือกฎหมาย เหนือรัฐธรรมนูญ และปฏิเสธการรับผิดชอบใดๆ 15 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนกว่า 4,000 คนเสียชีวิตจากปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บาดเจ็บอีกกว่าหมื่นคน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เราไม่เห็นสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลายท่านบอกว่ายะลา ปัตตานี และนราธิวาสมีความพิเศษ อยากให้มีการปกครองแบบพิเศษ ผมคิดว่าทุกที่ ทุกจังหวัดมีความพิเศษ แต่ละที่มีความสวยงาม มีความหลากหลาย มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง แต่รัฐที่แข็งทื่ออย่างรัฐไทย พยายามเอากฎกติกา ความคิด ความเชื่อแบบเดียวกันบีบบังคับให้คนต้องเชื่อ ศรัทธา และปฏิบัติในแบบเดียวกันทั้งประเทศ และนี่คือต้นตอของปัญหา นอกจากนี้ งบประมาณในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 15 ปีที่ผ่านมากว่า 3 แสนล้านบาท ลองคิดดูว่าหากเรานำงบประมาณจำนวนนี้มาพัฒนาโรงเรียน พัฒนาการคมนาคม เกิดโรงงานแปรรูปยางพารา หรืออาหารฮาลาล ฯลฯ ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เราจะแก้ปัญหาความรุนแรงได้ดีขึ้นหรือไม่ เอามาให้ผมหรือ 7 พรรคฝ่ายค้าน จะสามารถพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปไกลกว่านี้ได้อย่างแน่นอน

วันนี้ไม่มีพลวัตในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการรัฐประหารปีž 57 มีแต่การใช้มาตรการด้านความมั่นคง มีแต่การใช้มาตรการทางด้านการทหารเข้ามาจัดการปัญหา มองประชาชนเป็นศัตรู คิดอย่างเดียวคือการปราบปรามให้สิ้นซาก ตราบใดที่ยังไม่มีความเป็นธรรม ย่อมไม่มีสันติภาพ ที่ใดยังมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้ ดังนั้น ถ้าเรายังปราบปรามและมองประชาชนเป็นศัตรู เราจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นักเคลื่อนไหวหลายคนเสียชีวิตไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดถูกดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมเลย นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งประเทศไทย

ดังนั้น ถ้าไม่มีความเป็นธรรมหรือคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนใช้แต่อำนาจทางทหาร ใช้แต่มาตรการความมั่นคงแก้ปัญหาไม่ได้ สิ่งที่ขาดหายไปคือกระบวนการสันติภาพ เราต้องกลับมาคิดใหม่ว่าแก่นกลางของการแก้ปัญหาต้องใช้มาตรการทางการทูต มาตรการทางการเมือง และมาตรการทางเศรษฐกิจเป็นตัวสนับสนุน แล้วเอามาตรการทางความมั่นคงดูแลความเรียบร้อยรอบนอก ไม่ใช่เอามาตรการทางความมั่นคงเป็นแกนกลางในการแก้ปัญหา แต่เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เลยถ้าปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจในสังคมไทยยังไม่ถูกแก้ไขว่าใครเป็นเจ้าของอำนาจ เราไม่มีอำนาจในการกำหนดอนาคตของเราเอง อำนาจทุกอย่างถูกนำไปกองไว้ที่กรุงเทพฯ และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือรัฐธรรมนูญที่กุมอำนาจไว้ที่กองทัพ ใช้ความมั่นคงกดขี่พี่น้องประชาชนทุกจังหวัด นี่คือรัฐธรรมนูญที่ออกหัว พล.อ.ประยุทธ์ชนะ ออกก้อยประชาชนแพ้ เขาไม่มีทางแพ้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ วันนี้ประเทศไทยไม่มีกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด คือข้อตกลงของพี่น้องประชาชนว่าสังคมไทยเราอยากจะอยู่ร่วมกันแบบไหน อยากอยู่ภายใต้กฎกติกาแบบใด กฎที่ผู้แพ้ก็สู้กันไปตามกติกา ในขณะที่ผู้ชนะก็ไล่บี้ผู้แพ้ให้สิ้นซาก เราต้องมีกติกาที่เราจะอยู่ร่วมกันได้ภายใต้แนวคิดที่หลากหลาย เราต้องการกติกาแบบนั้นซึ่งวันนี้เราไม่มี ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้สังคมไทยไปสู่ทางตัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกลับมาคิดทบทวนว่าประเทศไทยแบบไหน สังคมไทยแบบไหนที่เราต้องการอยู่ร่วมกัน และกดกติกาแบบไหนที่ทุกฝ่ายจะยอมรับร่วมกัน เราไม่ได้เรียกร้องให้ประชาชนทั้งประเทศคิดเห็นไปในทางเดียวกันหมด เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่เราบอกว่าอย่างน้อยที่สุดเรามาเคารพกติกาเดียวกัน ซึ่งยังไม่สายเกินไป ถ้าวันนี้เราไม่แก้รัฐกับสังคมจะเดินไปสู่ทางตัน การแก้รัฐธรรมนูญเป็นทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่ในสังคมไทย

และนี่คือเหตุผลที่พวกเรามาที่นี่เพื่อมาเรียกร้องและเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมกันและตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยกัน

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์
หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ(พ.พ.ช.)

การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้แก้เพื่อ 7 พรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นการแก้เพื่อประชาชนทุกคน โดยประชาชนต้องเป็นผู้มาแก้ 7 พรรคฝ่ายค้านเราเป็นเพียงผู้จุดชนวนในการแก้ไขให้เท่านั้น แต่การจะแก้ตรงไหน จุดไหน เป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย เพราะทุกคนมีสิทธิ และมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ประชาชน และท่านทั้งหลายต้องส่งตัวแทนเข้ามาร่วมร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเองพยายามพูดให้คนเข้าใจผิดว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดีให้มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน ก็แล้วท่านอยู่มา 5-6 ปี ทำไมท่านไม่คิดแก้ นอกจากนี้ หน้าที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เราในฐานะสภาผู้แทนราษฎรในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ออกกฎหมาย

ดังนั้น ขอพี่น้องประชาชนอย่างหลงทางไปกับสิ่งที่รัฐบาลบอก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image