การเมืองเปลี่ยน กิจกรรมเปลี่ยน
จาก สถานการณ์ “ประชามติ”
รู้สึกหรือไม่ว่าสถานการณ์ของเดือนพฤษภาคมระหว่างปี 2557 กับปี 2559
มีความ”แตกต่าง”
หากถือเอา “วันที่ 22 พฤษภาคม” เป็น “เส้นแบ่ง”ก็จะสัมผัสได้ในความ “แตกต่าง”เป็นอย่างมาก
ทั้งๆ ที่ไม่มีเพียง “มาตรา 44”
ทั้งๆ ที่ยังมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 13/2559 อยู่ในอุ้งมืออันแข็งแกร่ง
“ร.ต.”ก็สามารถ”บุก”เข้าไปในเคหสถานได้
แต่หากติดตาม “สถานการณ์” เมื่อผ่านวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 มา
ก็จะประจักษ์ในสภาวะซึ่ง”ไม่เหมือนเดิม”
1 ไม่เหมือนกับสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และ 1 ไม่เหมือนกับสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558
ทำไม
บางคนอาจตอบว่าเพราะว่า 1 มีร่างรัฐธรรมนูญ และ 1 มีกำหนดประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม
จึงมีความคึกคักในแบบแปลกๆ
ทั้งๆ ที่ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ก็มากด้วย “ข้อห้าม”
กึกกัองด้วยเสียง “อย่า”
กกต.อย่าง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ก็เล่นบท”ครูไหวใจร้าย”
แม้กระทั่งกับ “น้องเพนกวิน”
อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครฟัง และก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครกลัว
ท้าให้จับอยู่เหยง เหยง
กลุ่มพลเมืองโต้กลับซึ่งถูก กกต.สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า เพลงและมิวสิควิดีโอที่นำเผยแพร่
อาจผิดมาตรา 61 วรรคสอง
กลับประกาศเปิดมินิคอนเสิร์ต”พลเมืองตีเข่า เราจะร้อง เราจะเต้น เรามีสิทธิ”
วันที่ 15 มิถุนายน หน้า”กกต.”
นปช.คนเสื้อแดงก็เปิด”ศูนย์ปราบโกงประชามติ”ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน และประกาศจะเปิดศูนย์ปราบโกงทั่วประเทศในวันที่ 19 มิถุนายน
ทั้งๆที่ถูกมองว่าเป็น “อากาศธาตุ”
ที่ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรธ.เห็นว่า บทบาทเหล่านี้ไม่มี “ความหมาย”
เหมือน “ก้อนกรวด” ใน “รองเท้า”
ทำท่าว่าก้อนกรวดจะกลายเป็น “ก้อนหิน” และมิได้เป็นหินอย่างธรรมดาซะแล้ว ในเมื่อปรากฏทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ไม่ว่าหน่วย “ปจว.” ไม่ว่า “รด.จิตอาสา” ไม่ว่า ครู ก. ครู ข. ครู ค. ล้วนถูกติดตาม
