บทนำ : ขึ้นอยู่กับประชาชน

ตัวแทนคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน และการมีส่วนร่วมของประชาชน (ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน) นำโดย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ แถลงถึงผลการประชุม 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน โดยนายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านจะเปิดเวทีทั่วประเทศ โดยปรับรูปแบบจากการเสวนาเป็นการปราศรัยมากขึ้น ซึ่งเวทีปราศรัยนี้จะคิกออฟได้ปลายเดือนพฤศจิกายน และยังคิดจะผลิตรายการออกเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ยูทูบและเฟซบุ๊กพรรคต่างๆ ในเดือนตุลาคม โดยรูปแบบรายการจะเป็นคลิปความยาวประมาณ 5-7 นาที มีผู้ดำเนินรายการจาก 7 พรรคฝ่ายค้านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ

นายเผ่าภูมิยังเปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้านว่า แบ่งเป็น 3 ระยะสำคัญ คือ 1.สร้างการรับรู้ของสังคม ให้รู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอย่างไร ซึ่งพรรคฝ่ายค้านมีฉันทามติตรงกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา 2.ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างไร แนวทางไหน ซึ่งจะเดินสายกลุ่มย่อยเพื่อสร้างฉันทามติ เริ่มที่กรุงเทพฯเป็นพื้นที่แรก และ 3.สร้างฉันทามติของทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรมว่าประชาชนไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้จริงๆ

แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สายของ คสช. โดยร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาตามกรอบที่ คสช.วางไว้ แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ได้ผ่านการประชามติ แม้ว่าในช่วงการทำประชามตินั้น คสช.จะห้ามฝ่ายที่เห็นต่างแสดงความคิดเห็นโต้แย้งหรืออธิบายในสิ่งที่ตัวเองไม่เห็นด้วยก็ตาม ขณะเดียวกันกลไกในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยบัญญัติให้ทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะแก้ไขจึงสามารถแก้ไขได้ วิธีที่สามารถทำให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องในระบอบประชาธิปไตยได้ก็คือการทำประชามติอีกครั้ง ให้ประชาชนตัดสินใจ และน้อมรับมติเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไปดำเนินการ ยุทธศาสตร์ของพรรคฝ่ายค้านเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงหวนกลับไปหาประชาชน การแก้ไขหรือไม่ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ช้าหรือเร็ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image