อ่านคำกล่าวฉบับเต็ม ทำไม ‘จ่านิว’ ได้รางวัล ‘จารุพงษ์ ทองสินธุ์’
___
วันนี้เนื่องในเหตุการณ์ 6 ตุลา สภานักศึกษา มธ. มอบรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์เพื่อประชาธิปไตยแด่ จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว
ต่อไปนี้คือคำกล่าวฉบับเต็มในการมอบรางวัลดังกล่าวในช่วงเช้าของวันนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คำกล่าวรายงานมอบรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์
จารุพงษ์ ทองสินธุ์ หรือที่เพื่อน ๆ ของเขาเรียกว่า “เกี๊ยะ” เป็นอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ที่ได้เสียชีวิตลงในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จารุพงษ์เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2500 เป็นบุตรคนโตของนายจินดาและนางลิ้ม ทองสินธุ์ จารุพงษ์ใช้ชีวิตวัยเด็กและสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมต้นในจังหวัด สุราษฎร์ธานี และย้ายมาศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมปลายในกรุงเทพมหานครที่โรงเรียนวัดสุทธิวรารามก่อนที่จะเข้าศึกษาที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในระหว่างที่จารุพงษ์ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาได้เข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาเพื่อเรียกร้องสังคมที่เป็นธรรม ในขณะที่เขาศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 2 เขาได้ดำรงตำแหน่งอุปนายกองค์การนักศึกษาและกรรมการบริหารของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) จนกระทั่งเหตุการณ์ 6 ตุลาคม จากคำบอกเล่าของศาสตราจารย์ ดร. เกษียร เตชะพีระ จารุพงษ์เสียชีวิตด้วยคมกระสุนอยู่ที่บริเวณหน้าตึกองค์การนักศึกษา ในขณะที่เขากำลังเร่งให้เพื่อนนิสิตนักศึกษาวิ่งหลบกระสุนไปสู่ที่ปลอดภัย จึงนับได้ว่าจารุพงษ์เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อผู้อื่นแม้จนวาระสุดท้าย ในเวลาต่อมา ชื่อของจารุพงษ์ ทองสินธุ์ได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของห้องประชุมสภานักศึกษา ซึ่งตั้งอยู่บนตึกกิจกรรมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ทว่า ในปัจจุบันห้องประชุมจารุพงษ์ ทองสินธุ์มิได้อยู่ในความดูแลของสภานักศึกษาแล้ว สภานักศึกษาจึงได้นำชื่อของจารุพงษ์ ทองสินธุ์มาตั้งเป็นชื่อรางวัล “จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย” มอบให้แก่บุคคลที่ยึดมั่นและหวงแหน ทั้งได้อุทิศตนและได้เสียสละตนเองเพื่อประชาธิปไตย ดังเช่นจารุพงษ์ ปีละ 1 รางวัล เพื่อรำลึกถึงคุณค่าและอุดมการณ์ที่จารุพงษ์ ทองสินธุ์ได้ยึดมั่นไว้ตลอดที่ยังมีชีวิต และที่เขาได้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องไว้
ในโอกาสนี้ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เห็นควรว่า ผู้สมควรได้รับรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย ประจำปี 2562 ได้แก่ “นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์” หรือเป็นที่รู้จักในนาม “จ่านิว” นายสิรวิชญ์เป็นศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในระหว่างที่ศึกษาอยู่นั้น เป็นที่รู้จักในฐานะนักศึกษาที่แสดงความคิดเห็นและทำกิจกรรม เคลื่อนไหว รณรงค์เรียกร้องในประเด็นสังคมและการเมืองมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการรัฐประหารในปี พ.ศ.2557 นายสิรวิชญ์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และเคลื่อนไหวเพื่อนต่อต้านการใช้อำนาจเผด็จการทหารของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติมาโดยตลอด จนเป็นเหตุให้นายสิรวิชญ์ถูกดำเนินคดีจากการทำกิจกรรมทางการเมืองหลายข้อหา จนนับได้ว่าเป็นผู้มีคดีความทางการเมืองติดตัวมากที่สุดคนหนึ่งนับแต่การรัฐประหาร พ.ศ.2557 อาทิ คดีจัดกิจกรรมเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก คดีนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ คดีชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งในสถานที่ต่าง ๆ และคดีชุมนุมขับไล่ กกต. ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงที่ผ่านมา นายสิรวิชญ์ได้เผชิญกับการคุกคามและทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ในครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2559 หลังจากที่นายสิรวิชญ์ได้จัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์นั้น ได้ถูกกลุ่มบุคคลแต่งตัวคล้ายทหารใช้กำลังคุมตัวไปบนยานพาหนะจากบริเวณหน้าประตูเชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายสิรวิชญ์ยังได้กล่าวในภายหลังว่ามีการคลุมศีรษะ มีการทำร้ายร่างกาย และการมีด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงใช้อาวุธปืนทำเสียงข่มขู่ประทุษร้ายอีกด้วย ในครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2562 นายสิรวิชญ์ได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้ไม้ทุบตีทำให้มีบาดแผลบริเวณศีรษะและริมฝีปาก โดยการทำร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนายสิรวิชญ์ได้ทำกิจกรรมรวบรวมรายชื่อเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภางดออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี และในครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายสิรวิชญ์ถูกลอบทำร้ายอีกครั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานับสัปดาห์ และยังเป็นผลให้นายสิรวิชญ์ไม่สามารถเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนต่อในต่างประเทศ ทั้งที่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่นายสิรวิชญ์เป็นทั้งศิษย์เก่าและอดีตสมาชิกสภานักศึกษา ที่ได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรม แม้จะต้องเผชิญกับภยันตราย เช่นเดียวกับที่จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เราจึงขอมอบรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์แก่นายสิรวิชญ์ เพื่อเชิดชูความเสียสละและอุทิศตนดังกล่าว เพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นได้ลุกขึ้นพิทักษ์ประชาธิปไตยและความเป็นธรรม
__
