เพื่อไทยสัมมนาใหญ่ ‘สมพงษ์’ ปลุกคน พท.รักประเทศ รักกัน ยึดมั่นคำสัญญาให้กับ ปชช.

“เพื่อไทย” จัดสัมมนาใหญ่ “สมพงษ์” ชี้ คน พท.ต้องรักและสามัคคีกัน-ยึดมั่นคำสัญญาที่ให้ ปชช.-เดินหน้าผลักดันแก้ รธน.-ดู งบประมาณให้ ปท.-ปชช.ได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่โรงแรมเชอราตัน หัวหิน มีการจัดสัมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) “โครงการเสริมศักยภาพ ส.ส. และบุคลากรทางการเมือง” โดยมีแกนนำของพรรค ส.ส. อดีต ส.ส. และสมาชิกพรรค พท.จากทั่วประเทศ เข้าร่วมงานสัมมนาอย่างคึกคัก

โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนึ่งว่า พรรค พท.ก่อร่างมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคพลังประชาชน โดยมีบุคคลสำคัญที่เป็นผู้ก่อร่างสร้างพรรค และทำประโยชน์ให้กับประชาชนคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยท่านได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชน แล้วนำมาจัดทำนโยบายที่จับต้องได้ กินได้ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ หรือกองทุนหมู่บ้าน การฝ่าฟันต่างๆ จนทำให้พรรคเกิดความสามัคคี อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญมี 2 เรื่องใหญ่ ที่อยากคุยกับทุกท่านของพรรค พท. คือ 1.เรื่องความสามัคคีและร่วมมือกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรพรรค พท.ให้เข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้น โดยพรรคเราผ่านอุปสรรคและวิบากกรรมมาได้ด้วยความรักสามัคคีภายในองค์กร ที่เรารักผูกพันกัน เอื้ออาทรต่อกันไม่ทอดทิ้งกัน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคมา

การทำงานของพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา จัดวางอยู่บนพื้นฐานของพลังศรัทธาและความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนที่มอบให้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพรรค พท.ตระหนักดีถึงภารกิจที่สำคัญยิ่งนี้ เราซื่อสัตย์ต่อประชาชน และซื่อตรงต่ออุดมการณ์ ยึดมั่นในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนอย่างต่อเนื่องมาตลอด ประชาชนจึงรัก และโอบอุ้มเราอย่างอบอุ่น ทั้งไม่เคยทอดทิ้งพรรคเรา ทำให้เรายังคงได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นพรรคที่ได้รับการตัดสินจากประชาชน ให้เป็นพรรคที่ครองที่นั่งอันดับหนึ่งมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเรายังคงซื่อสัตย์ต่อทุกคำพูด ยึดมั่นในพันธะสัญญาทั้งปวงที่เราให้ไว้กับประชาชน ภารกิจของเราเป็นภารกิจในทุกคำมั่นที่เราให้ไว้กับประชาชน ไม่มีบิดพลิ้ว ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานภาพใดก็ตาม สิ่งนี้เป็นความเชื่อมั่นที่ประชาชนเชื่อถือพรรคเรา นอกจากนี้ เรายังคงยึดมั่นในจุดยืนที่จะมีส่วนร่วมกับประชาชนไทยร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง มีการกระจายอำนาจ อย่างทั่วถึงเพื่อให้เกิดรัฐที่ประชาชนมีส่วนร่วม มิใช่รัฐแบบรัฐราชการ ที่รวมศูนย์อำนาจส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่แต่ในส่วนกลาง ความสำเร็จทั้งปวงล้วนเกิดขึ้นบนฐานความรัก ความสามัคคี ของคนภายในองค์กรเป็นพื้นฐาน ดังนั้น เราต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรของพรรคที่มีความเข้มแข็ง สามารถปรับเปลี่ยนตามพัฒนาการของสถานการณ์และสังคมได้

Advertisement

“คนทำงานการเมืองของพรรค พท.ต้องรู้จักเล็กเป็น และใหญ่เป็น เพื่อร่วมกันคิดร่วมกันทำให้งานมีผลสัมฤทธิ์ต่อพี่น้องประชาชนสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โลกปัจจุบันที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นพลวัต และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งต้องการ ‘การนำร่วมแบบใหม่ ในโลกยุคใหม่’ ที่ผู้นำจักต้องบริหารจัดการทรัพยากรทั้งหมดที่พรรคเรามี มาช่วยกันสร้างพรรคให้เข้มแข็ง เพื่ออำนวยประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับสมาชิกในองค์กร ให้ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ให้มากที่สุด ทำให้ทุกคนรักพรรค และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรค พร้อมจะช่วยกันอุทิศตัวสร้างประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นแก่พรรคของเรา วันนี้ เราต้องเร่งสร้างความร่วมมือ ความเข้าใจ ความเอื้ออาทรต่อกัน เพื่อให้เรารักกัน รักประชาชน และรักประเทศของเราต่อไป” นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า 2.เป้าหมายในการมาสัมมนาของพรรคในครั้งนี้ คือ ขอให้พวกเราทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ และทำงานในฐานะ ส.ส.อย่างรับผิดชอบต่อประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดความสามารถ อย่าให้ประชาชนผิดหวัง และอย่าให้พี่น้องประชาชนเสียประโยชน์ เราทุกคนจะมุ่งมั่นผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่เรา ได้รับปากกับพี่น้องประชาชนไว้ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญ คือ กุญแจดอกสำคัญ ในการไขไปสู่การนำพาพี่น้องประชาชนของเราให้พ้นออกจากวิกฤตชีวิต และวิกฤตเศรษฐกิจที่พวกเขาทุกคนกำลังเผชิญ นอกจากนี้ ขณะนี้ เฉพาะหน้า ต้องเตรียม และเร่งศึกษากรอบงบประมาณ ที่รัฐบาลปัจจุบันเพิ่งจะนำมาเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งเราได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลเมื่อเช้าว่าจะได้เวลาในการอภิปราย 3 วัน โดย ส.ส.ของพรรค พท. จะร่วมมือกันพิจารณากรอบงบประมาณอย่างเคร่งครัด มิให้มีการรั่วไหล และไม่ปล่อยให้เกิดช่องว่างของการทุจริต หรือมีช่องทางการนำงบประมาณของแผ่นดินไปหาประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เฉพาะตน เพื่อให้เงินของแผ่นดินถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ เงินงบประมาณแผ่นดินต้องถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราจะไม่ยินยอมให้เกิดการเล่นเกมส์การเมือง เพื่อดึงการพิจารณางบประมาณแผ่นดินให้ยืดเยื้ออกไปอย่างไม่รู้จบโดยไร้เหตุผลเพราะถือเป็นการทำร้ายพี่น้องประชาชน ทำให้งบประมาณไม่สามารถลงไปสู่ชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งๆ ที่กำลังต้องการให้การเคลื่อนย้ายงบประมาณรีบไปกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้ประโยชน์ให้พี่น้องที่กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตโดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image