‘ปิยบุตร’ แจกลายเซ็น ‘การเมืองแห่งความหวัง’ แถวยาวมาก สุดท้ายต้องย้ายที่!

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม ที่บูธมติชน T06 ในงาน มหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 24 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ผู้เขียนหนังสือ “การเมืองแห่งความหวัง” เดินทางมาพบปะนักอ่านและร่วมแจกลายเซ็นที่บูธมติชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักอ่านและแฟนการเมืองต่อแถวรอรับลายเซ็นอย่างคับคั่งตั้งแต่ก่อนกำหนดเวลา 15.00 น. ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ ไปจนถึงวัยกลางคน โดยคิวยาวกระทั่งหางแถวอ้อมบูธมติชน จน อ.ปิยบุตรต้องย้ายที่นั่งแจกลายเซ็นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักอ่าน

นายชนพัทธ์ บุรินทร์รัมย์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนคงทองวิทยา เปิดเผยว่า ตนสนใจการเมืองไทย การเมืองต่างประเทศ โดยเฉพาะสงครามโลก โดยวันนี้ตั้งใจมาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์ และหนังสือการเมืองแห่งความหวังโดยเฉพาะ นัดวันเอาไว้ตั้งใจว่าจะมาวันนี้ เพราะนอกจากจะได้หนังสือยังเป็นผลพลอยได้ที่ได้มาเจอ อ.ปิยบุตรด้วย

“ปกติตามเฟซบุ๊กของ อ.ปิยบุตร เห็นโพสต์ว่าอาจารย์จะมาแจกลายเซ็นก็เลยตั้งใจมา เป็นแฟนพันธุ์แท้ ชอบดูคลิปเก่าๆ ของอาจารย์ และปกติชอบอ่านงานของอาจารย์ปิยบุตรอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเล่มที่ควรตามเก็บ ส่วนตัวชอบประวัติศาสตร์อยู่แล้ว อยากจะเก็บช่วงเหตุการณ์ตรงนี้ไว้ ในอนาคตจะได้รู้ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองตอนนี้เป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร”

“ก่อนหน้านี้ก็ขอลายเซ็นของอาจารย์วิษณุด้วย ซื้อทั้งลงเรือแป๊ะ และการเมืองแห่งความหวัง ที่ซื้อทั้ง 2 เล่มเพราะเป็นคนดังทั้ง 2 คน ซื้อไว้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เมื่อสักครู่ก็ได้พูดคุยกับอาจารย์ปิยบุตร ท่านเป็นไอดอลของผม เป็นไอดอลในทางที่ดี เพราะอยากเข้าคณะนิติศาสตร์ เหมือนอาจารย์ปิยบุตร” นายชนพัทธ์กล่าว

Advertisement

ด้าน นายวริทธิ์ กิจส่งเสริมกุล อายุ 23 นักศึกษาจบใหม่ กล่าวว่า ตั้งใจมาซื้อหนังสือลงเรือแป๊ะ เห็นว่าอาจารย์ปิยบุตร บุกมาด้วยก็เลยซื้อหนังสือของ อ.ปิยบุตรด้วย ที่รู้จักหนังสือลงเรือแป๊ะเพราะเห็นตอนประชุมสภาอาจารย์ปิยบุตรโฆษณาให้อาจารย์วิษณุ อยากได้ลายเซ็นเก็บไว้

“ถามว่ารอคิวนานขนาดไหน ของอาจารย์วิษณุไม่ถึง 5 นาที เพราะมาก่อนเวลา ก็เลยได้ก่อน แต่อาจารย์ปิยบุตรตั้งแต่ต่อแถวจนจ่ายตังค์ และได้ลายเซ็น รวมแล้วประมาณ 40 นาที แต่ไม่ได้รอเฉยๆ อ่านหนังสือรอไปด้วย ที่สนใจหนังสือการเมืองแห่งความหวัง เพราะต่อให้เราชอบหรือไม่ชอบก็ควรรู้ว่าเขามีความคิดอย่างไร รู้ไม่ได้แปลว่าให้เราเชื่อ แต่เราควรรู้ว่าเขามีแนวคิดอย่างไร เพื่อเป็นองค์ความรู้อย่างหนึ่ง ซึ่งความรู้เราไม่ควรจะแบ่งว่าใครอยู่ฝ่ายไหน อย่างไร เราต้องรู้ให้หมดทุกฝ่ายจะได้เข้าใจเขามากขึ้น เมื่อเรารู้ทุกฝ่ายแล้วความเกลียดชังจะหายไป จะมีความเข้าใจเข้ามาแทน” นายวริทธิ์กล่าว

Advertisement

น.ส.กานต์ทิตา เชื้อทิน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา นนทบุรี เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ อ.ปิยบุตรแบบใกล้ชิด เขินสุดๆ เป็นคนสนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบดูทีวีมาก ติดตามการเมืองมาตลอด พอช่วง ม.3 รู้จักนักข่าวคนหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจทำให้สนใจการเมืองมากขึ้นแม้ว่านักข่าวคนนั้นจะอยู่คนละขั้วกับความคิดตัวเองก็ตาม แต่มีจุดดึงดูดทำให้สนใจและอยากทำงานเกี่ยวกับสื่อ เกี่ยวกับการเมืองโดยเฉพาะ

“การเมืองเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งการเงิน การเรียนตอนนี้อยู่ ม.4 แต่มองว่าการเมืองสำคัญกับการเรียนทั้งเรื่องระบบการจัดการในโรงเรียน ผู้อำนวยการ งบประมาณของโรงเรียน ซึ่งปกติในห้องเรียนคุณครูจะให้เด็กแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ แต่โรงเรียนหนูไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เท่าไหร่ ไม่เหมือนต่างประเทศ จึงอยากศึกษาด้วยตัวเอง ศึกษาทางทีวี อินเตอร์เน็ต ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และหนังสือ และติดตามคนดัง ทั้งนักข่าว นักการเมือง พรรคการเมือง เกือบทุกพรรค ปกติเวลาประชุมสภาก็ติดตามตลอด อยากลองอ่านหนังสือการเมืองแห่งความหวัง วันนี้ก็ซื้อลงเรือแป๊ะของอาจารย์วิษณุมาด้วย ขอลายเซ็นอาจารย์วิษณุเป็นคนแรก เพราะบังเอิญมาถึงแล้วเจออาจารย์พอดี”

“การเมืองแห่งความหวังของหนู อยากให้มันดีกว่านี้ ทั้งการบริหาร ระบบจัดการที่ดีกว่านี้ เพราะทุกวันนี้แย่มากพอแล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับเรื่องรัฐประหาร ก่อนหน้านี้เห็นด้วยแต่พอหลังๆ ศึกษามากขึ้นก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากทุกวันนี้เราอยู่ในกฎเกณฑ์ แต่กลายเป็นว่าอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนาดีขึ้น หรือต่อให้พัฒนาก็มีข้อจำกัดบางอย่าง การอ่านหนังสือจะปลดล็อกตรงนี้ได้” น.ส.กานต์ทิตากล่าว

น.ส.กานต์ทิตายังกล่าวอีกด้วยว่า วันนี้มาเจออาจารย์ปิยบุตรครั้งแรก เซอร์ไพรส์ด้วยการวาดภาพแฟนอาร์ต ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส เขียนข้างหลังบรรยายเล็กน้อยถึงอาจารย์ โดยเมื่อ อ.ปิยบุตรได้รับก็ตกใจ

“อาจารย์บอกว่า เห็นหนูตั้งแต่แรกแล้วลูก เพราะติดตามอาจารย์มาตั้งแต่ช่วงบอลธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” น.ส.กานต์ทิตากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image