เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมูบ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 อ.สามพราน จ.นครปฐม นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เขต 5 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 1 นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.เขต2 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ( หลานชาย )พร้อมคณะเดินพบปะและหาเสียงกับพี่น้องประชาชน ชาวเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 ตลอด 28 อาคาร โดยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ได้เชิญชวนให้พี่น้องชาวเอื้ออาทร ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันพุธ ที่ 23 ตุลาคม โดยขอโอกาสให้เลือกนายเผกิมชัย สะสมทรัพย์ หมายเลข1 อีกสักครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร และนายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.เขต2 (หลานชาย) ได้เดินพบปะพี่น้อง และเยาวชนที่กำลังเล่นกีฬา และออกกำลังกายอยู่ที่สวนสาธารณะ อย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระบวนการหาเสียงในเวลสอันสั้น เหลือเพียง8 วันนี้ว่า ช่วง 8 วันนี้ก็คงใช้แผนการเดินรณรงค์เดินพบพี่น้องประชาชนเหมือนเดิมซึ่งจะได้ทั้งสองอย่างคือไปหาเสียง และได้พบปัญหาด้วย รู้ความต้องการของประชาชน เพราะส.ส.เป็นผู้แทนของประชาชนต้องมาจากราษฎรหนึ่งสิทธิ หนึ่งเสียง หนึ่งคะแนนของเขาก็คืออยากจะบรรยายปัญหา เราก็จะต้องรับฟัง สู้ปัญหาที่แท้จริง ถ้าเข้าไปอยู่ในสภาก็คือการแก้ปัญหาของแต่ละที่แต่ละจุดที่ไม่เหมือนกับทุกภาคส่วนก็เลยติดว่าใช้วิธีที่มากที่สุด ก็คือ วิธีที่จะออกเดินให้มากได้เข้าพบปะพูดคุยกับชาวบ้านให้ได้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้เสียงดีไหม นายเผดิมชัย กล่าวว่า ช่วงนี้เสียงแหบ แต่คะแนนดี ดีขึ้น ดูจากสายตาที่มีประสบการณ์มานานว่าเรานั้นจริงใจ ความจริงใจของผมที่มีต่อเค้ามาหลายสมัยและเสียงของผมนั้นมีความจริงใจท่านก็คงจะรู้ แต่อาจจะห่างหายไปหลายปีที่ไม่ได้ยินเสียงผมเพราะฉนั้นเสียงนี้กลับมาเพื่อให้ความรู้สึกของเค้าว่าผมนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้ใจทำงานและมั่นใจ และมีผลงานมาในอดีตนั้นเยอะแยะไปหมดแต่อาจจะขาดตอนไปบ้าง
นายเผดิมชัย กล่าวว่า ทางการเมืองของผมนั้น เป็นการเมืองที่สร้างสรรมากกว่า ที่จะไม่ติชมอะไรเพราะเรารู้แล้วว่ารัฐบาลคือประเทศไทยเราจะดีไม่ดีอย่างไรก็มีคนบางส่วนเลือกมาให้บริหารประเทศครั้งที่แล้วผมก็ไม่กล่าวหา บอกว่าหนึ่งเสียงจะเปลี่ยนเสียงรัฐบาลแล้วเปลี่ยนได้ไหม แล้วลาออกทำไม เรื่องแบบนี้ก็อาจจะมีพลั้งเผลอไป เราไม่ว่าน้องๆเขาหรอก เริ่มแรกม็อตโต้แรกก็บอกว่าหนึ่งเสียงจะล้มรัฐบาลแล้วคุณลาออกทำไมซึ่งก็ควรจะล้มไปนานแล้ว วันนี้ก็ มาคิดหาทางที่จะว่า เบื่อคนนั้นเลือกพรรค แต่ไม่รู้ตัวของพรรคคือใครเพราะ มันต้องเชื่อมโยงกับตัวบุคคล ถ้าขาดตัวบุคคลซึ่งเป็นหลักในท้องที่แล้วคุณก็จะไม่ได้รับทราบปัญหาอย่างที่ถามมาใช้วิธีไหน ก็คือการพบปะประชาชนทุกจุด ทุกแห่ง ทุกอาชีพ ไม่เหมือนกันเราถึงต้องเข้ามาพบกัน อาชีพนี้เลี้ยงสุกรนครปฐมขาดเหลืออะไรเมื่อเข้าไปแล้วจะแก้ไขอย่างไร อาชีพนี้เกษตรกรเราจะได้เห็น ในเอื้ออาทรนี้ขาดอะไรบ้างในการเชื่อมโยงระหว่างนิติบุคคลกับเทศบาลจะต้องทำอย่างไร ให้เขามีความเป็นอยู่ดีขึ้นเป็นต้น
“ทุกพรรคเขาก็จะมีจุดขายของเขา แต่สำหรับผมจุดขายของเราคือขายความมั่นใจผมเป็นรัฐมนตรีว่าการมาแล้ว ผมก็คงต้องขายความมั่นใจของตัวผม ผมเคยทำงานเป็นรัฐมนตรีมาหลายสมัยคนบ้านผมนครปฐม ตระกูลผมนี่เป็นรัฐมนตรีมา ดังนั้นปัญหาในทางสภาเราก้าวข้ามมาแล้ว เราเรียนรู้มาแล้วตั้งแต่สมัยแรกๆ มาถึงปัจจุบัน 30 กว่าปีก็เป็นบทเรียนว่าเรามีความรู้พอไม่ต้องไปพี่งแสงจากตรงไหน เราพึ่งแสงจากตัวเราเอง 1. เรารู้ว่าเราจะบริหารประเทศอย่างไรเมื่อเราเข้าไปเป็นเสนาบดี 2.เราเข้าใจปัญหาท้องถิ่นของเราทุกซอก ทุกมุม ทุกอำเภอเพราะเราเป็นผู้แทนมาแล้วทั้งจังหวัด ทุกเขตดังนั้นวันนี้จะ มาถามว่าจะมีปัญหาอะไรอีกเล่าที่ผมรู้หมดทุกอย่างดังนั้นผมก็ไม่ต้องพึ่งแสงจากที่อื่น ผมไม่ได้โม้ตัวเองเรารู้หมดทุกอย่างเราจึงไม่ต้องไปพึ่งแสงคนอื่นมากลบคนนครปฐม ฉนั้น คนนครปฐมก็สามารถเป็นใหญ่ได้อยู่แล้ว ไม่ได้โม้เพราะเป็นมาแล้วจริงๆรู้ปัญหา
