วันที่ 17-19 ตุลาคม สภาผู้แทนราษฎรมีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระ 1 โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลสรุปให้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 จำนวน 3 วัน ทั้งนี้จะแบ่งเวลาอภิปรายให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 15 ชั่วโมง ไม่นับรวมเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2 ชั่วโมง
สำหรับงบประมาณปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท แยกเป็นงบประมาณด้านยุทธศาสตร์ 7 ด้าน ประกอบ 1.ด้านความมั่นคง 428,219 ล้านบาท 2.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 380,418 ล้านบาท 3.ด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพและทรัพยากรมนุษย์ 570,528 ล้านบาท 4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 766,269 ล้านบาท 5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 118,576 ล้านบาท 6.ด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบ การบริหารจัดการภาครัฐ 504,657 ล้านบาท และ 7.รายการค่าดำเนินการภาครัฐ 431,336 ล้านบาท
วันที่ 15 ตุลาคม ก่อนการประชุมสภาจะมาถึง พรรคการเมืองต่างๆ ได้หารือการอภิปรายงบประมาณในการประชุมระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม โดยพรรคฝ่ายค้านได้แบ่งทีมแบ่งหัวข้อในการอภิปราย เตรียมการวิพากษ์วิจารณ์รายละเอียดของงบประมาณทั้งเรื่องความถูกผิดกฎหมาย ความเหมาะสมของจำนวนเงินที่รัฐบาลจัดสรรมาในยุทธศาสตร์ต่างๆ ความชัดเจนในการนำงบประมาณไปใช้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการนำงบประมาณซึ่งมาจากภาษีของประชาชนไปใช้
เบื้องต้นพรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 โดยพุ่งเป้าไปที่งบประมาณของฝ่ายความมั่นคง งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเติบโตของงบกลาง ซึ่งเกี่ยวพันกับการใช้และการตรวจสอบการใช้ พร้อมทั้งอาจจะมีข้อเสนอแนะการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้น การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระการพิจารณางบประมาณปี 2563 จึงเป็นอีกช่วงเวลาที่ประชาชนคนไทยน่าจะติดตามสดับฟัง ไม่ว่าจะเป็นข้อซักถาม คำชี้แจง รวมไปถึงข้อแนะนำ หรือข้อสังเกต เพื่อทราบวิธีคิดและวิธีใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน และเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อติดตามการพิจารณางบประมาณในวาระ 2-3 ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป
