กลุ่มสหภาพยุโรปที่มีชาติสมาชิกเคยล่าอาณานิคมระดับโลก เพิ่งมีมติให้กระชับความสัมพันธ์กับไทยภายหลังการเลือกตั้ง อีกทั้งเผยท่าทีพร้อมสำหรับการลงนามกรอบความตกลงว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อนำไปสู่การรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน
แถลงการณ์ของอียูเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ระบุถึงการมองเห็นพัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศไทย หลังจากมีการเลือกตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2562 จึงได้ฤกษ์งามยามดีต้องกระชับความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้
แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ที่ว่านั้น อียูเขียนมาด้วยว่าครอบคลุมประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และประชาธิปไตยแบบพหุนิยม
แหม่ อ่านแล้วก็อยากจะติดตามขึ้นมาทันทีว่า การกระชับความสัมพันธ์นี้จะเป็นอย่างไร
เพราะวันก่อนผู้นำกองทัพไทยเพิ่งจะเอ่ยถ้อยคำที่บ่งบอกถึงความขุ่นเคืองบรรดานักวิชาการ ครูอาจารย์ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ว่าไปร่ำเรียนยังประเทศที่ล่าอาณานิคม แล้วไปเอาแนวคิดซ้ายจัดดัดจริตมาเผยแพร่คนรุ่นใหม่
ประเทศที่ติดโผเคยล่าอาณานิคม มีทั้งฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม อิตาลี เยอรมนี และถ้านับอังกฤษ หรือสหราชอาณาจักรที่ยังไม่เบร็กซิทออกไปเสียที ก็ล้วนชูประเด็นที่ว่ามาทั้งหมด
เนื่องจากประเทศเหล่านี้ผ่านการเรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต และยอมรับความจริงว่าคนในชาติตนเองเคยกระทำไม่ดีต่อชาติที่ถูกล่าอาณานิคมมาอย่างไร จึงเป็นที่มาของการสร้างหลักการปรับสังคมมนุษย์ให้เข้าสู่ความเท่าเทียมและเอื้อประโยชน์ต่อกัน
จึงไม่แน่ใจว่า หัวข้อนอกเหนือการค้าแต่อียูต้องการกระชับความสัมพันธ์กับไทย เป็นซ้ายจัดดัดจริตด้วยหรือไม่
ขณะที่ อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดแถลงต่อจาก ผบ.ทบ. เชิญชวนให้ผู้นำกองทัพมาร่วมกับทุกพรรคการเมือง คนทุกรุ่นทุกวัย สร้างชาติร่วมกันโดยยึดมั่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์บ้าง สิทธิเสรีภาพบ้าง พึ่งพาอาศัยกันฉันมิตรบ้าง และเคารพความแตกต่างหลากหลายอีกต่างหาก ดูท่าแล้ว ถ้าใช้กรอบของผู้นำกองทัพมาวัด ก็ไม่พ้นเป็นซ้ายจัดดัดจริต หรือลอกเลียนชาติล่าอาณานิคมไปด้วย
ปัจจุบันประเทศที่เคยล่าอาณานิคมต้องเผชิญปัญหาที่ตนเองเคยก่อไว้ และยังมีปัญหาอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาตามยุคสมัย เช่น ภาวะโลกร้อน เฟคนิวส์ ผู้อพยพ การก่อการร้าย ฯลฯ ซึ่งต้องรับมือและแก้ไขกันไปไม่หยุดนิ่ง
ทั้งยังต้องรักษาจุดยืนการพัฒนาประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ กับนานามิตรประเทศต่อไป
ต่อให้ถูกมองว่าดัดจริตก็ตาม
ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์
