เช็กเสียงส.ส.2 ฝ่าย ชี้ขาดพ.ร.บ.งบฯ63 รัฐบาลเฉือนฝ่ายค้าน 5 เสียง
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในวาระแรก ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคมนี้ จำนวน 38 ชั่วโมง ในส่วนของจำนวนส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรจะเหลือเพียง 498 คน จาก 500 คน เมื่อเช็คเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลล่าสุด จากที่มีเสียงส.ส.รวม 254 เสียง แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) 117 เสียง นับรวมพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 พรรคพปชร. ที่รอฟังคำสั่งศาลฎีกาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จึงยังสามารถร่วมประชุมสภาฯและลงมติได้ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 53 เสียง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 51 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) 5 เสียง พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) 3 เสียง พรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) 3 เสียง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) 2 เสียง และ 10 พรรคเล็กที่มีส.ส.หนึ่งเสียง เหลือเพียง 8 เสียง เนื่องจาก 2 เสียงของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ขอถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ และเมื่อหักเสียงของประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯรวม 3 คน ตามมารยาทต้องงดออกเสียง รวมทั้งมีรายงานข่าวล่าสุดว่า นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภท. มีปัญหาด้านสุขภาพ จะไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสภาฯได้ จึงเหลือเสียงรวม 248 เสียง
ขณะที่เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย(พท.) 136 เสียง พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 81 เสียง พรรคเสรีรวมไทย (สร.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 7 เสียง พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) 6 เสียง พรรคเพื่อชาติ (พช.) 5 เสียง และพรรคพลังปวงชนชาวไทย 1 เสียง รวม 246 เสียง และหักออก 2 เสียงของ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และกรณี น.ส.จุมพิตา จันทรขจร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ที่ลาออก และจะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ตุลาคมนี้
รวมทั้งกรณีของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคพท. ที่ต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่นลงโทษประหารชีวิต และให้คุมขังนายนวัธไว้ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา โดยศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติการเป็นส.ส. พร้อมกับมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทำให้เสียงของฝ่ายค้านเหลือ 243 เสียง
โดยเสียงของฝ่ายรัฐบาลจะมีมากกว่าเสียงของฝ่ายค้านอยู่ 5 เสียง ซึ่งต้องจับตาดูในช่วงการโหวตลงมติฯว่า ส.ส.ของแต่ละฝั่งจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน หรือมีใครแตกแถวไปลงมติให้ฝ่ายตรงข้ามหรือไม่
