โหรฟองสนาน เตือน คนไทยรับมือดวงเมืองห้วงอิทธิพลมฤตยูจร

 

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่296 โดยฟองสนาน จามรจันทร์จิตใจคนเมืองรัตนโกสินทร์ภายใต้อิทธิพลมฤตยูจรรอบนี้

“ครั้นเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม 2565แล้ว หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองรัตนโกสินทร์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร” คือข้อความที่ผู้เขียนเพียรบอกให้คนไทยทุกคนรับมือมฤตยู(0)ผู้อาเพศ ที่เข้ามาเดินในราศีเมษทับลัคนาเมือง คราวนี้เป็นรอบที่สามนับตั้งแต่วางเสาหลักเมืองวันอาทิตย์ที่21 เมษายน 2325 เวลา06.54น.หรือ237ปีที่ผ่านมา

โดยมฤตยูจรเริ่มเข้ามาเดินในราศีเมษอย่างจริงจังรอบนี้ตั้งแต่วันที่6มีนาคม 2559เป็นต้นมา ที่แม้จะเดินมาได้เพียงค่อนทางของเจ็ดปี(มฤตยูจรไปอยู่ราศีใดจะอยู่นานเจ็ดปี) เมืองเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงมากมายในระดับไม่คิดว่าจะได้เห็นก็เห็น

Advertisement

และผลกระทบอีกประการหนึ่งที่ต้องหาคำอธิบายทางโหรคือคนไทยเป็นทุกข์เป็นร้อน และกระทบกระเทือนกันมากทางจิตใจอันเกิดจากการปะทะกันทางความคิดระหว่างคนในเมืองอย่างดุเดือดเข้มข้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกไซเบอร์ จนอาจารย์ธีรยุทธ บุญมีออกมาเตือนให้ระวังวิฤตการณ์รอบใหม่ของชาติก่อตัว-ระบบความคิดเห็น-คนกลุ่มอื่นเป็นศัตรู

ส่วนผู้เขียนก็อยากเตือนอีกแรงหนึ่งเพราะชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าหนึ่งในเป้าหมายที่จะมีการเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติใหญ่คือจิตใจของคนในเมืองรัตนโกสินทร์ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจรมาตั้งแต่มีนาคม2559แล้ว

อธิบายโดยหลักโหรคือทุกดวงชะตาของคนรวมทั้งเมืองนั้นโหราศาสตร์สามารถบอกเรื่องราวต่างๆของชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายได้สิบสองเรื่องอีกทั้งยังสามารถบอกลักษณะจิตใจ หรือธาตุแท้ของเจ้าชะตาได้ด้วยว่าเป็นอย่างไรที่รู้จักกันในชื่อตนุเศษ

Advertisement

อันว่าจิตใจ หรือตนุเศษนี้ถือเป็นฟันเฟืองเล็กๆสำคัญที่มีส่วนกำหนดชีวิตของคนว่าจะนำไปสู่วิถีทางใด เพราะเมื่อจิตใจเป็นเช่นไรก็ไปกำหนดการกระทำเช่น

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษนั้น พระอาทิตย์(๑)เป็นตัวแทนจิตใจ พื้นฐานจิตใจคนไทยจึงมักมีอาการของพระอาทิตย์คือใจดี ใจกว้างแต่ใจร้อน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เป็นลูกน้องใครไม่ค่อยจะดี รักอิสระ รักเกียรติ อำนาจ ชื่อเสียง เชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุผลที่คัดค้านหรือตรงกันข้ามความคิดของตน แถมชอบครอบงำคนอื่นอีกด้วย คอยอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรมักเอาความใหญ่โตไว้ก่อน ฯลฯตามนิยามของพระอาทิตย์ ตัวแทนยศศักดิ์

นอกจากความเป็นพระอาทิตย์ที่ร้อนแรงในตัวเองแล้ว พระอาทิตย์ดาวจิตใจเมืองรัตนโกสินทร์นี้ยังสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ ได้มาตรฐานอุจจ์แปลว่าสูง เข้าไปอีกยิ่งเพิ่มอารมณ์ร้อนวู่วาม บางคราวขาดการควบคุมและยับยั้งชั่งใจมากขึ้นอีก

พระอาทิตย์ดาวจิตใจนี้สถิตอยู่ร่วมกับลัคนาเมืองที่ราศีเมษ จิตใจจึงร่วมกับตัวตน(ลัคนา)ทำให้คนไทยเป็นประเภทเปิดเผย จริงใจ คิดสิ่งใดทำสิ่งนั้น คิดคำนึงถึงเมืองก่อนเรื่องอื่น

เมื่อรู้จักพื้นฐานจิตใจของคนในเมือง(โดยภาพรวมแล้ว) ในแต่ละช่วงเวลาจิตใจนี้ก็ผันแปรไปตามอิทธิพลของดาวต่างๆที่ทำมุมกับจิตใจของคนในเมืองเช่น

ตั้งแต่ประมาณมีนาคม2559เป็นต้นมาเมื่อมฤตยูจรเจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติใหญ่มาทับลัคนาเมือง นั่นคือจิตใจของคนในเมืองที่อยู่ร่วมลัคนาก็พลอยถูกอิทธิพลของมฤตยูจรทับเข้าเต็มที่เหมือนกัน

ลองมาดูความหมายบางส่วนของมฤตยูที่เกี่ยวเนื่องกับการปะทะกันทางความคิดในเมืองขณะนี้คือเป็นตัวแทนนักปฏิวัติ-การปฏิวัติที่ไม่พอใจสิ่งเก่าๆและต้องการให้เกิดสิ่งใหม่ทำให้กลุ่มคนที่ไม่ยอมรับมองนักปฏิวัติกลุ่มนี้เป็นพวกวิตถาร และถูกรังเกียจ

ฉะนั้นจึงอย่าได้แปลกในที่ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559มาแล้วที่จิตใจของคนในเมืองรัตนโกสินทร์สุมความขัดแย้งเพราะมฤตยูอย่างร้อนแรงระหว่างคนสองกลุ่มคือกลุ่มแรกที่ถูกเรียกว่าเก่า- คร่ำครึ- มนุษย์ป้า- มนุษย์ลุง กับอีกกลุ่มที่ถูกมองว่าเป็นพวกวิตถาร- หัวร้อน- ล้ำยุค-ไร้ราก-บ้าประชาธิปไตย ที่กำลังสู้กันอย่างร้อนแรงในสังคมขณะนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกไซเบอร์ชนิดไม่มีใครยอมใครและฟังใคร

วิธีสังเกตุการทำงานของมฤตยูคือก่อนที่จะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่เรื่องอะไรจะมีการสุมพลังขัดแย้งกันระหว่างเก่า-ใหม่จนได้ที่แล้วระเบิดออกมาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในเรื่องนั้นแล้วเริ่มต้นสุมพลังเพื่อระเบิดต่อเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย

โดยนัยนี้อาการของจิตใจของคนในเมืองดูได้จากการสั่งสมความเบื่อหน่ายการเมือง นักการเมืองเก่าที่สู้กันมานาน จนจิตใจประชาชนบางส่วนพร้อมจะเดินหน้ารับสิ่งใหม่ นักปฏิวัติใหม่แบบพรรคอนาคตใหม่จึงขี่มฤตยูมาอวดโฉมล็อคถล่ม-เหลือเชื่อ

คำถามคือแล้วอะไรคือผลลัพธ์ด้านจิตใจของคนในเมืองที่เกิดจากมฤตยูจรรอบนี้ที่รออยู่เมื่อเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครกลางปี2565 คำตอบนี้ เมื่อนั้นอิทธิพลของมฤตยูจรต่อจิตใจคนไทยรอบนี้จะหมดไป เหลือไว้แต่ผลจากการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในจิตใจคนไทยซึ่งคาดว่าคงจะทันและล้ำสมัยมากๆ แต่ผู้เขียนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร ทำได้แต่เพียงอาศัยปูมโหร-เกร็ดประวัติศาสตร์จากจากไล่ย้อนดูอาการของมฤตยูที่มาทับทั้งลัคนาและจิตใจของเมืองในอดีตมานำเสนอพอเป็นแนวทางเลาๆคือ

1.ผู้เขียนเชื่อว่าการมาของมฤตยูรอบนี้เหมือนคราวที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต แล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ อันเป็นระยะเจ็ดปีแรกที่ประเทศเริ่มเข้าสู่ความทันสมัยหรือตะวันตกเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา โดยสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำเอง

2.แม้จะมีการต่อสู้กันทางความคิดอย่างดุเดือดระหว่างสองขั้วในเมืองขณะนี้แต่ผู้เขียนไม่เชื่อว่าการมาถึงของมฤตยูรอบนี้จะไม่เป็นเช่นช่วงเริ่มปฏิวัติสยาม2475ที่ในระยะเจ็ดปีนั้นได้นำพาสิ่งใหม่ที่คนไทยไม่คุ้นเคยมาสู่เมืองตั้งแต่รัฐธรรมนูญที่ชาวบ้านบางส่วนไม่รู้จักบอกเป็นลูกพระยาพหลฯ-นายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรี-เลือกตั้ง-ปฏิวัติ-กบฏฯลฯเพราะหากจะเป็นเช่นนั้นต้องมีเกณฑ์ร้ายทางโหรอื่นร่วมด้วย

ฉะนั้นไม่ว่าขณะนี้การต่อสู้กันทางความคิดจะรุนแรงเพียงใดแต่ผู้เขียนยังเชื่อว่ารอบนี้พลังด้านบวกของมฤตยูที่มาจากภพลาภะ-อันหมายถึงโชคลาภและความสำเร็จในเมืองและยังตั้งอยู่ในจุดที่ทำให้เมืองเข้มแข็งในดวงเดิม(สถิตในราศีมิถุน-โยคหน้าลัคนาเมือง)จะออกผลด้านดีมากกว่าร้าย

แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่คนในเมืองแล้วว่าจะช่วยกันอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้ง-ต่อสู้กันทางความคิดบานปลายเป็นวิกฤตดังที่อาจารย์ธีรยุทธ บุญมีเตือนไว้ เพราะหากจัดการดี อนาคตที่จะมีเรื่องดีมากกว่าร้ายและความรุ่งโรจน์ของเมืองรออยู่ตั้งแต่กลางปี2565เป็นต้นไปคือหลังจากมฤตยูจากราศีเมษไปแล้ว

ดังจะได้ค้นคว้าปูมโหร-ประวัติศาสตร์เพื่อออกคำทำนายล่วงหน้าถึงอนาคตประเทศไทยเจ็ดปีหลังกรกฎาคม2565มาให้ทราบต่อไป-และเตรียมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอในงานเนชั่น แฟนเดย์ 24พย.62

ฟองสนาน จามรจันทร์
18ตุลาคม 2562

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image