⦁…ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญเบิกความเรื่อง “หุ้นสื่อ บ.วีลัค” ตอบไปตอบมา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เอ่ยถึง ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาเฉยๆ ว่าตัวเองเข้ามาสู่การเมือง ไม่ได้มาหาผลประโยชน์ หรือมีคนเดินตามเหมือน “ทักษิณ” น่าสนใจว่า “ธนาธร” ไปเอ่ยถึง “เสี่ยแม้ว” ในศาลอย่างนั้นเพื่ออะไร
⦁…ที่แน่ๆ คือ “เสียคะแนน” ไปพอสมควร “ธนาธร” กับ “ทักษิณ” อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกันหลายเรื่อง แต่ในฐานะ “ผู้ถูกกระทำ” ด้วยกัน อยู่ๆ หันไปออก “ออกหมัด” ใส่กันซะ 1 ดอกแบบนั้นก็ดูแปลกๆ และไม่ค่อยแฟร์ ทางออกที่ดีที่สุดคือ “รีบขอโทษ” อย่างที่ “เสี่ยเอก” จัดไป ก็ถือว่าผ่านไปอีกเรื่องแบบมี “คาใจ” นิดๆ
⦁…ส่วนคดีหุ้นสื่อ ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย 20 พ.ย. ก็คือเดือนหน้า คณะที่จะพิจารณาวินิจฉัยคงเป็นศาลรัฐธรรมนูญ 9 คนเดิม แม้ว่า ในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนสรรหาตุลาการใหม่ 5 คน เพื่อแทนที่คนเดิมที่ต้องพ้นไป หลังจากอยู่มา 11 ปี ตอนนี้ได้ชื่อ 5 คนครบแล้ว ส.ว.ตั้ง “กมธ.วิสามัญ” มาสอบประวัติใช้เวลา 60 วัน นับจากต้น ก.ย.ที่ผ่านมา ถ้าไม่ติดขัด ไม่มีขยายเวลา ต้องนำ 5 ชื่อเข้าที่ประชุม ส.ว.ขอความเห็นชอบ ถ้าผ่านนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
⦁…5 ผู้ผ่านขั้นตอนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 3 คน อุดม สิทธิวิรัชธรรม, วิรุฬห์ แสงเทียน, จิรนิติ หะวานนท์, จากที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด 1 คน ชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ และจากสรรหา 1 คน นภดล เทพพิทักษ์ อดีตทูต อธิบดี กระทรวงการต่างประเทศ กว่าจะได้เข้าทำหน้าที่ คงพ้นเดือน พ.ย.ไปอีกพอสมควร
⦁…วันที่สามของการ “ถก” งบประมาณ ได้เห็น “ส.ส.หน้าใหม่ๆ” หลายคนขึ้นมาอภิปราย แสดงความห่วงใยการจัดงบ-การใช้งบ ต้องถือว่า “สภา” ชุดนี้เปลี่ยนไปพอสมควร และสอดคล้องกับยุคสมัย ส.ส.รุ่นนี้ “จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ” ในบทบาทของ “ผู้ตรวจสอบ” และ “นักการเมือง” ที่เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ “คนรุ่นใหม่” เข้าสภามากขึ้นอีก
⦁…สัปดาห์นี้ “พุธ 23 ตุลาฯ” มีเหตุการณ์ใหญ่ เลือกตั้งซ่อมนครปฐม เขต 5 แทน จุมพิตา จันทรขจร จากอนาคตใหม่ ที่ป่วยหนักปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เห็นมีข่าวมากหน่อยก็คือ เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.เจ้าเก่าจากชาติไทยพัฒนา ที่พลาดสอบตกจากเลือกตั้งใหญ่ 24 มี.ค. เที่ยวนี้ได้เบอร์ 1 ส่วน ปชป.ลงหาเสียงกันบ่อยอยู่พอสมควร เพื่อสนับสนุน สุรชัย อนุตธโต เบอร์ 3 และเจ้าของเก้าอี้เดิม ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร เบอร์ 6 ที่อนาคตใหม่ส่งลงแทน “ภรรยา” คือ “จุมพิตา”
⦁…สนามนี้เป็นที่จับจ้อง เพราะจะเป็นตัวชี้วัดความนิยม “รัฐบาล VS ฝ่ายค้าน” ในพื้นที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เก้าอี้ ส.ส.แม้จะเพียงตัวเดียว แต่ในสภาพ “ปริ่มน้ำ” ก็มีความหมายมาก ถึงตอนนี้ก็หวังว่า “กกต.” จะทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมา รายงานผลอย่างรวดเร็ว เคลียร์ทุกประเด็น เรียกศรัทธากลับคืน ทำให้ระบบเลือกตั้งของประเทศไทยมี “มาตรฐาน” อย่างที่ กกต.ยุคต้นๆ ได้ทำเอาไว้
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่