เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 23 ตุลาคม ที่บ้านพักนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.พรรคพรรคชาติไทยพัฒนา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาส.ส.จากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เริ่มทยอยเดินทางมายังบ้านพักนายเผดิมชัย เพื่อแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเริ่มทราบผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่คะแนนเลือกตั้งนำห่างพรรคคู่แข่งจากหลายหน่วยเลือกตั้ง
เวลา 20.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลนับคะแนนเลือกตั้งนับผลอย่างไม่เป็นทางการ ได้มีการนับผลไปแล้วร้อยละ 80 โดยผลปรากฎว่าคะแนนของพรรคชทพ. นับได้ 31,000 คะแนน ส่วนผลนับคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 24,000 คะแนน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังอยู่ระหว่างนับผลคะแนนเลือกตั้งที่เหลือร้อยละ 20 หรืออีกประมาณ 7,000 คะแนนเสียง จากนั้นจะประกาศให้ทราบต่อไป
ต่อมาเวลา 20.45 น. นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พร้อมด้วย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. ได้แถลงต่อสื่อมวลชน โดยนายเผดิมชัย กล่าวว่า เท่าที่ตนได้ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการ โดยตนได้คะแนนเสียงประมาณ 3.8 หมื่นคะแนน ส่วนพรรคอนค. ได้คะแนนเสียงประมาณ 2.8 หมื่นคะแนน ซึ่งคะแนนได้ทิ้งห่างกันราว 9 พัน-1 หมื่นคะแนนเสียง โดยตนต้องขอขอบคุณครอบครัวสะสมทรัพย์ ภรรยาและลูกที่ได้ร่วมลงพื้นที่หาเสียงร่วมกัน ชาวนครปฐม และพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีความสามัคคีและได้สนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวนครปฐมที่มีความเข้าใจ ตลอดจนทีมงาน ซึ่งตนได้ใช้ยุทธวิธีผ่านตระกูลสะสมทรัพย์ที่ได้รับใช้พี่น้องชาวนครปฐมกว่า 30 ปี โดยเมื่อสักครู่ต้องขอบคุณนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ได้โทรมาแสดงความยินดี และตนขอขอบคุณนายปิยบุตรกลับด้วย พร้อมคาดหวังว่าจะได้ไปทำงานร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล ก็ยืนยันว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติแน่นอน
นายเผดิมชัย กล่าวต่อว่า ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้หาเสียงผ่านรถยนต์ โดยมองว่าทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะมาจากภาคไหน เหนือ อีสาน กลาง ใต้ เมื่อเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมแล้ว ทุกคนคือครอบครัวเดียว ซึ่งยุทธศาสตร์หาเสียงสำคัญคือ การใช้ความสบายใจ ไม่สร้างความแตกแยกและสร้างความอบอุ่นแก่พี่น้องประชาชน และใช้ยุทธศาสตร์ต่างจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว โดยต่อสู้กับกระแสและตอบโต้กับกระแสที่เกิดขึ้น ผ่านการทำการบ้านอย่างหนัก โดยตนได้ใช้กรอบเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งไม่ถึง 3 อาทิตย์ เดิมจะใช้เวทีปราศรัยใหญ่เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แต่ได้เปลี่ยนใจหาเสียงอย่างหนัก ผ่านการเคาะประตูตามบ้านและเปลี่ยนวิธีไปคุยพบปะชี้แจงชาวบ้านตามพื้นที่ที่ยังไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียงแทน และพบว่าภายใน 10 วัน ตนก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
“ซึ่งขอบคุณประชาชนอีกครั้งที่ได้ทุ่มคะแนนให้มากเหลือเกิน และผมจะไม่ทรยศประชาชน และตั้งใจทำงานไม่เหน็ดเหนื่อย และจะทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ขอบคุณพรรคพปชร.ที่ได้เปิดกว้างให้ทางพรรคได้ส่งผู้สมัคร สร้างความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยถอนตัวผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเปิดทางให้กับปชป. และชทพ. ลงสมัครแทน” นายเผดิมชัย กล่าว
ด้านน.ส.กัญจนา กล่าวว่า ดีใจและขอขอบคุณตระกูลสะสมทรัพย์ที่ร่วมกันหาเสียง พร้อมขอบคุณชาวนครปฐมเขต 5 ทุกคนที่เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา และขอบอกกับพี่น้องทุกคนว่า เราจะทำงานรับใช้พี่น้องชาวนครปฐมอย่างเต็มที่ พร้อมดีใจที่ได้ทำคะแนนเพิ่มให้กับรัฐบาลได้เพิ่มอีก 1 เสียง ซึ่งที่ผ่านมานายเผดิมชัย หาเสียงเคาะประตูทุกบ้านเหนื่อยมาก โดยที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือให้ทางพรรคมาช่วยหาเสียง ส่วนประเด็นวันเลือกตั้งที่อนค.คาใจเลือกตั้งซ่อมเป็นวันพุธ ทำให้อนาคตใหม่คะแนนหายไปนั้น “ทางพรรคไม่มีความเห็น เพราะกกต เป็นคนกำหนดวันเลือกตั้ง”
น.ส.กัญจนา กล่าวอีกว่า ส่วนเสียงที่หายไป ตนก็มองว่าวันที่ 23 เป็นวันหยุดเหมือนกับวันอาทิตย์ ฉะนั้น คะแนนไม่ได้เทไปที่พรรคไหน ส่วนที่นายปิยบุตร โทรมาก็ได้บอกว่าแสดงความยินดี และเจอกันในสภาฯ ขณะที่ตนบอกว่าไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ทำงานร่วมกันได้
