“จุรินทร์”เผย เตรียมอุทธรณ์สหรัฐ ทบทวนตัดจีเอสพี ชี้ทำไทยต้องเสียภาษีเพิ่ม 1.5-1.8 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.เวลา 13.30 น.ที่ จ.อุดรธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวถงกรณีที่สหรัฐฯประกาศตัดจีเอสพีสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯว่า ปัจจุบันสหรัฐฯให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี รวมทั้งหมดมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ไทยไม่ได้ใช้สิทธิเต็มตามจำนวนที่ให้สิทธิ เราใช้สิทธิแค่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดิมไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งการตัดจีเอสพีครั้งนี้ก็จะทำให้สินค้าไทยที่ส่งออกไปขายยังสหรัฐฯแต่ละปีมีภาระที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นปีละ 1,500 – 1,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตามประเด็นที่สหรัฐฯอ้างใช้เป็นเงื่อนไขในการตัดจีเอสพี คือประเด็นเรื่องแรงงาน และประเด็นสำคัญคือสหรัฐฯต้องการให้ไทยเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทย สามารถตั้งสหภาพแรงงานได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงแรงงานจะต้องเป็นผู้ให้ข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าทำไมสหรัฐฯจึงมาตัดจีเอสพีในช่วงนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นช่วงพิจารณาประจำปีของเขา จากนี้ไปเราก็ยังสามารถที่จะอุทธรณ์ ให้เขาพิจารณาทบทวนใหม่ได้ ซึ่งหลายครั้งที่เขาตัดสิทธิเจเอสพีเรา เช่นปี 61 เราก็ขอให้เขาทบทวน เราอุทธรณ์ไปเขาก็คืนรายการสินค้ามาให้ 7 รายการ และในปีนี้เมื่อถึงเวลาเราก็จะยื่นอุทธรณ์ขอให้เขาทบทวนอีก เมื่อถามย้ำว่าหากสหรัฐฯไม่ทบทวน ไทยจะมีมาตรการตอบโต้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ทบทวนก็ถือเป็นอำนาจของเขา เพราะเรื่องจีเอสพีเป็นเรื่องที่เขาให้สิทธิฝ่ายเดียว เขาจะให้หรือไม่ให้ประเทศไหนก็ได้ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อเราขอให้ทบทวนแล้วเขาไม่ให้ก็ถือว่าเราไม่ได้สิทธิพิเศษนั้น เราก็ต้องเสียภาษีตามเงื่อนไขที่เขากำหนด
เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องสหภาพแรงงานแล้วมีเรื่องที่ไทยแบน 3 สารเคมีหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เท่าที่ติดตามการแบน 3 สารไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการตัดจีเอสพีครั้งนี้
