บทนำมติชน : ทำศึกการค้า

การสั่งตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี โดยทางการสหรัฐอเมริกา เมื่อ 25 ต.ค. และจะมีผลในเดือน เม.ย. ปีหน้า สหรัฐอ้างเหตุการคุ้มครองแรงงานของไทยไม่ได้มาตรฐาน ในเรื่องนี้ ภาคเอกชนไทยโดยเฉพาะในภาคธุรกิจประมง ตั้งข้อสงสัยว่า ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง เพราะที่ผ่านมา ไทยเคยเผชิญปัญหาค้ามนุษย์ และการทำประมงผิดกฎหมายและไม่มีการรายงาน หรือไอยูยู แต่ได้ปรับปรุงแก้ปัญหา จนกระทั่งเข้าสู่มาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับและได้รับจัดอันดับให้อยู่ในเทียร์ 2 บวก

ส่วนผลที่จะเกิดขึ้น กระทบประเภทสินค้าถึงกว่า 570 รายการ ที่เห็นภาพชัดขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมกุ้งไทย ซึ่งส่งออกไปยังสหรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าร้อยละ 40 ของสินค้าส่งออกทั้งประเทศ หรือประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อถูกตัดจีเอสพีจะส่งผลต่อการแข่งขันกับประเทศเวียดนาม เนื่องจากกุ้งไทยจะมีราคาสูงกว่า การส่งออกจะลดลง และส่งผลต่อเกษตรกรผู้เลี้ยง ทั้งนี้ ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลอันดับ 3 ของโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ ผลไม้ ผัก ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ และเครื่องไฟฟ้า ในปีที่ผ่านมา ไทยส่งสินค้าเข้าสหรัฐมูลค่า 31.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง

การระงับจีเอสพีไทย เกิดขึ้นพร้อมกับที่ไทยสั่งแบนสารเคมีเกษตร 3 ชนิด และทางสหรัฐมีท่าทีไม่พอใจอย่างเปิดเผย หลายฝ่ายจึงเตือนรัฐบาลว่า ไทยกำลังเผชิญกับสงครามทางเศรษฐกิจและพบกับมาตรการกีดกันทางการค้าจากประเทศมหาอำนาจที่ไทยเชื่อว่าเป็นมหามิตร จึงต้องหาทางเจรจาแก้ไขปัญหาด้วยความรอบคอบและทันสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบตนเองว่ามีจุดอ่อนที่เป็นเงื่อนไขให้หยิบยกมากีดกันการค้าได้หรือไม่ รวมถึงการแสดงออกถึงจุดยืนในการเมืองระหว่างประเทศ ก็มีความอ่อนไหว และอาจนำไปสู่ปัญหาได้เช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image