ความแค้น ฝังหุ่น ต่อ ธนาธร อนาคตใหม่ ของ พลังประชารัฐ

ไม่ว่ามติคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปตอบคำถาม

กับการที่พรรคพลังประชารัฐพยายามสกัด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญ

จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ละม้ายเหมือนกัน นั่นก็คือ ใช้มาตรการในทางกรรมาธิการเพื่อจัดการกับเป้าหมายอันไม่พึงประสงค์ในทางการเมืองของตน

สรุปตามสำนวนบ้านๆ ก็ต้องว่า “เล่นกันคนละหมัด”

Advertisement

จะแตกต่างก็เพียงแต่ว่าปฏิบัติการอันปรากฏขึ้นที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นการทำบนพื้นฐานแห่งกฎหมาย

ดำเนินการผ่าน “คณะกรรมาธิการ”

ขณะที่กรณีที่พรรคพลังประชารัฐพยายามสกัดขัดขวาง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มิได้กระทำในนามคณะกรรมาธิการวิสามัญ มิได้กระทำในนามของพรรคพลังประชารัฐ

Advertisement

และไม่แน่ว่าจะอิงอยู่กับ “หลักกฎหมาย” ข้อใด

 

หากติดตามการเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตั้งแต่เป็นมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม เป็นต้นมา

การเคลื่อนไหวของ ส.ส.ก็เป็นการทำอย่างเอกเทศ

การเคลื่อนไหวของ นายสุชาติ ตันเจริญ ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เพียงแต่สะท้อนความเห็นต่างจากฝ่ายกฎหมายของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ภายในคณะกรรมาธิการเองก็มิได้ขัดข้องในกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

มีแต่เพียง นายวิรัช รัตนเศรษฐ มาตั้งข้อสงสัย เช่นเดียวกับ นายวิเชียร ชวลิต กระนั้น ก็มิได้มีมติสงสัยใดๆ จากคณะกรรมาธิการโดยรวม

นายชวน หลีกภัย ก็บอกว่า รอ “หนังสือ” อย่างเป็นทางการอยู่

ตรงนี้เองที่สะท้อนให้เห็นความต่างระหว่างบทบาทของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กับ บทบาทของพรรคพลังประชารัฐ

น่าสงสัยว่าพรรคพลังประชารัฐจริงจังเพียงใด

ไม่ว่าจะมองผ่านบทบาทของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ซึ่งเป็นประธานวิปรัฐบาล ไม่ว่าจะมองผ่าน นายวิเชียร ชวลิต ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ

2 คนนี้เป็นกรรมาธิการวิสามัญ งบประมาณ

ความน่าแปลกอย่างประหลาดอยู่ตรงที่ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเป็นของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นรัฐมนตรีคลัง

กระนั้น นับแต่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ งบประมาณ เป็นต้นมา นายอุตตม     สาวนายน ก็ไม่เคยแตะประเด็นนี้

ตรงกันข้าม คณะกรรมาธิการยังมีมติแต่งตั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นที่ปรึกษา

ยิ่งกว่านั้น เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการพร้อมกับตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่

ตกลงพรรคพลังประชารัฐต้องการจัดการกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างไร

บางทีจังหวะก้าวของพรรคพลังประชารัฐต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจไม่ซีเรียส จริงจัง นั่นก็คือเคลื่อนไหวแต่มิได้หวังผลอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้

เป้าแท้จริงเพียงต้องการแสดงความรังเกียจ

เหมือนที่บรรดา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเคยแสดงความรังเกียจไม่ยอมให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เอ่ยปากอะไรออกมาในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน

สะท้อนความแค้นในแบบ “ฝังหุ่น” ของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image