⦁…เศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ได้ “ชิม ช้อป ใช้” ยังไม่แสดงอิทธิฤทธิ์ที่จะเพิ่มกำลังซื้อมาหมุนวงจรตลาด “ส่งออก” ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ถูกซ้ำเติมจาก “สหรัฐตัดจีเอสพี” แถมกดดันให้ “คุมแรงงานต่างด้าว” ซึ่งต้องเพิ่มต้นทุนมากมายให้ภาคอุตสาหกรรม และกระทบต่อ “รายจ่ายของรัฐ” ที่แค่ดูแล “แรงงานไทย” ยังไม่ดีพอ ขณะที่ชาวบ้านร้านตลาดเริ่มกังขากับ “ฝีมือความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาล” เนื่องด้วย “ไม่มีผลงานใดให้ความหวังว่าจะมีอะไรดีขึ้น” น่าติดตามอย่างยิ่งว่า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แม่งานใหญ่ จะแสดงท่าทีต่อความกดดันอันหนักอึ้งนี้อย่างไร
⦁…จนถึงวันนี้ ความรู้สึกนึกคิดของผู้คน ยังกังขาใน “ยุติธรรม สองมาตรฐาน” ซึ่งแม้ปัญหาปากท้องจะมากลบเกลื่อนไปจากความสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับ “นักการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาล” ยังกระตุ้นให้เรื่องราวที่สร้างความกังขาว่า “ชอบธรรมหรือไม่” มาเป็นประเด็นเสวนาตลอด ถึงแม้จะห่างหายจากความใส่ใจของผู้คนไปบ้าง แต่ วิษณุ เครืองาม ถึงอย่างไรก็หนีไม่พ้นที่จะต้องทำการบ้านหนัก เพื่ออธิบายให้ “ประชาชนส่วนใหญ่” ไม่ใจหายใจคว่ำกับ “สภาวะไร้กติกามารยาทของการอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน”
⦁…เพราะนำ “การเมืองกลับสู่เวทีประชาธิปไตย” การทำงานกับ “นักการเมือง” ที่ต้องมีต้นทุนในการดูแลพื้นที่ แม้ “พลังประชารัฐ” จะมีผสมปนเปกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่แต่ละกลุ่ม “ขาใหญ่” ดูแลเครือข่ายของตัวเองอยู่แล้ว โดยมี “รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ” พร้อมสนับสนุน แต่ถึงอย่างไร “กลุ่ม คสช.” จำเป็นต้องมี “ศูนย์กลางคอนโทรลเครือข่ายให้อยู่ในกรอบที่ต้องการ” ซึ่งหมายเลยไปถึงการทำความเข้าใจกับ “พรรคร่วมรัฐบาลอื่น” และ “ควบคุมสมาชิกวุฒิสภา” ให้ยังคงเป็น “ฝักถั่ว” ได้ ด้วยประการฉะนี้ แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอ่อนล้าแค่ไหน ก็ยังต้องฝืนตัวเอง เพื่อประคับประคอง “น้องตู่ของพี่ใหญ่” ต่อไป
⦁…ถึงวันนี้ ความพยายามจะอยู่อย่างเงียบที่สุดของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เป็นวิธีรอดจากกระแสโจมตีหนักหน่วงมาได้ตลอด ดูจะเสื่อมเสียแล้ว เพราะเป้าหมายแรกที่ “ฝ่ายค้าน” ประกาศว่าจะเป็น “รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เป็น “บิ๊กป๊อก” คนนี้เอง ว่ากันว่า “ข้อมูลที่ไหลออกจากเจ้าหน้าที่รัฐ” ถึงมือ “ฝ่ายค้าน” นั้น “หนักแน่นชัดเจน” อยู่ไม่น้อย แน่นอน เมื่อถึงเวลาโหวต “เสียงรัฐบาลคงไม่มีแตก” แต่สภาวะไม่แยกจากกัน ย่อมไม่รวม “แบ่งปันข้อมูลให้ถล่ม” เรื่อง “การเมืองมีต้นทุนเสมอ” นี้ “น้องป๊อก”
คงต้องเรียนรู้จาก “พี่ป้อม”
⦁…จะฟื้นจากการถูกกระทำให้เสียหายหรือไม่ “ประชาธิปไตยไทย” และ “ภาพลักษณ์ของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” ที่ถูกประโคมพฤติกรรมน่ารังเกียจ จน “เผด็จการกลายเป็นความชอบธรรม” เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ จะต้องฝากความหวังไว้ที่ ชวน หลีกภัย ในฐานะ “ประธานรัฐสภา” จะใช้ศิลปะอย่างไร ที่จะทำให้ “ยังอยู่กับอำนาจได้” โดย “รักษาหลักการของระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา” ไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในยุคสมัยที่ฝ่ายหนึ่ง เชื่อมั่นใน “รัฐธรรมนูญดีไซน์เพื่อพวกเรา”
⦁…ปรากฏการณ์เตรียมชิงเก้าอี้ “นายก อบจ.ชลบุรี” สร้างแรงสะเทือนไม่น้อย หลัง “พรรคอนาคตใหม่” ตัดสินใจไม่ส่ง จิรวุฒิ สิงห์โตทอง ลงสมัคร เกิดการประสานมือครั้งใหญ่ของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อสนับสนุน “เดอะเป้า” ไม่ว่าจะเป็นคนกว้างขวางรุ่นใหม่อย่าง มานิตย์ ภาวสุทธิ์ มาพร้อมกับ ประมวล เอมเปีย รวมตัวกับ “ตระกูลดัง-นกหงส์” จากที่ก่อนหน้านี้ เป็นผู้สมัคร “ไทยรักษาชาติ”
ประกอบร่างกับ “นักการเมืองหน้าใหม่” ที่เพิ่งสร้างข่าวยกขบวนลาออกจาก “พรรคอนาคตใหม่” ประกาศยกพล ชน “บ้านใหญ่” ที่ วิทยา คุณปลื้ม กำลังปรับทีมให้ทันสมัยขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือ “อนาคตใหม่” วางตัวสู้ไม่ถอย
⦁…แม้จะดูน่าเห็นใจที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล พร้อม “ทีมอุดมการณ์ประชาธิปไตย” แห่ง “พรรคอนาคตใหม่” ที่ต้องสะสมประสบการณ์โหด ทั้งจาก “รุกฆาตของศูนย์กลางอำนาจ” และ “ความระส่ำระสายจากการตีโต้ของขาใหญ่ในแต่ละท้องถิ่น” แต่มองอีกมุมถือเป็นความโชคดี ที่มีโอกาส “คัดคนอุดมการณ์เดียวกัน” ได้แต่เนิ่นๆ ไม่เป็น “อีแอบ” ที่จะสร้างปัญหาภายภาคหน้า ด้วยเวลาสร้างพรรคเพียงน้อยนิด เติบโตมาได้ถึงขนาดนี้ ย่อมมี “ฟองอากาศ” ที่ทำให้บวมเกินจริงอยู่ไม่น้อย สะสางให้เหลือ “ของแท้” ให้มากที่สุด ย่อมเป็นโอกาสที่ดีงาม