ส.จ.สมหมาย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ยันชาวบ้านชื่นชมผลงาน แต่ไม่ข้ามห้วยลงสมัคร ส.จ.เมืองประจวบฯ

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน นายสมหมาย แดงโชติ หรือ ส.จ.หมาย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทย บิดานายสังคม แดงโชติ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแสว่าตนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขต 3 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังนายมาโนช หินแก้ว ส.จ.หลายสมัยเจ้าของพื้นที่เดิมเสียชีวิต ยอมรับว่าเดิมเคยทำหน้าที่ ส.จ.กุยบุรีหลายสมัย ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ่อนอก และ ต.อ่าวน้อย เรียกร้องขอให้ลงสมัคร ส.จ. เพราะเคยเห็นผลงานในการทำหน้าที่ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือนำงบประมาณเข้าไปพัฒนาพื้นที่หลายด้านร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ลงรับสมัคร ส.จ.เขต 3 อ.เมือง เพื่อแข่งขันกับนายนรสภณ หินแก้ว พี่ชายนายมาโนชที่เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร เพราะส่วนตัวสนิทสนมกันดี ขณะเดียวกันตนมีพื้นที่ทางการเมืองอยู่ใน อ.กุยบุรี หากไปลงสมัครข้ามเขตคิดว่าคงไม่เหมาะสม แต่จะมีบุคคลอื่นลงแข่งกับนายนรสภณหรือไม่ ตนไม่ทราบและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวใดๆ

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้สนับสนุนทีมการเมืองท้องถิ่นหรือผู้สมัครรายใดเป็นพิเศษทั้งสนาม ส.จ. อบต. และเทศบาล โดยเฉพาะการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบต.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเหลือ ส.อบต.หมู่บ้านละ 1 คน คาดว่าจะมีกระแสแข่งขันสูงมาก สำหรับประชาชนที่จะใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตั้งท้องถิ่นขอให้ดูที่การประกาศนโยบายเป็นหลัก และติดตามผลงานที่ผ่านมา:ซึ่งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นที่มีโอกาสทำหน้าที่นานเกือบ 7 ปี

นายพิชิต สันติเมธากุล อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทีมพลังบ้านเกิด ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หัวหน้าทีมรักษ์ประจวบ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเปิดตัวทีมผู้บริหาร ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ทั้ง 3 เขต จำนวน 18 คน เนื่องจากประเมินว่า กกต.จะจัดเลือกตั้งเทศบาลเมืองฯช่วงกลางปี 2563 หากเปิดตัวไปก่อนอาจมีปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลในภายหลังเหมือนทีมอื่น สำคัญเมื่อเปิดตัวทีมงานแล้วอาจเจอกระแสพลังดูดย้ายค่าย หรือการย้ายจากทีมอื่นเข้ามาขอสังกัดโดยไม่มีเหตุผล แต่ล่าสุดมี ส.ท.จากทีมพลังบ้านเกิดในยุคปัจจุบันเข้ามาร่วมงาน 2 ราย ยอมรับว่าหลังเปิดตัวมีกระแสโจมตีว่าไม่ใช่ลูกเกิดเมืองประจวบ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนมีเหตุผลในการติดตามนโยบายเพื่อตัดสินใจใช้สิทธิลงคะแนน

“จากประสบการณ์ทำงานเป็นพนักงานเทศบาล เคยเป็นรองนายกเทศมนตรี เป็นตัวแทนองค์กรภาคประชาชนมายาวนาน ส่วนตัวยอมรับว่ามีทุนทางการเมืองไม่มาก เดิมไม่เคยคิดสมัครนายกเทศมนตรี แต่เนื่องจากนายเกรียงไกร ไกรทอง หัวหน้าทีมพลังงานเกิดโดนแขวนจาก ม.44 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 บอกว่าจะเลิกเล่นการเมือง ผมจึงประกาศเปิดตัว แต่ต่อมานายเกียงไกรประกาศจะลงสมัครอีกครั้ง แต่ผมได้ประกาศไปแล้วจึงต้องเดินหน้าอาสาทำงานด้วยใจต่อไป ตามสโลแกนรักแผ่นดิน ถิ่นอาศัย ร่วมใจพัฒนา และการหาเสียงจะประกาศนโยบายการพัฒนาให้ครบทุกด้านเน้นหนักการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ปัญหาขยะ การปรับปรุงสวนสาธารณะ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ขาดโอกาสเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทศบาลว่างเว้นจากการบริหารและกำหนดทิศทางโดยนักการเมืองนานหลายปี”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image