ไม่เพียงแต่ญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาและหาวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 อันเสนอโดยนายสุทิน คลังแสงและคณะ
จะสำคัญและทรงความหมายเป็นอย่างสูง
หากญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการประกาศและคำสั่งของคสช.และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ซึ่งเสนอโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุลและคณะ
ก็สำคัญและทรงความหมายเป็นอย่างสูง
เพราะเท่ากับเป็นการประมวลผลงานของรัฐบาลอันเนื่องแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อย่างเป็นระบบ
ชี้ให้เห็นทั้ง”คุณ”และ”โทษ”ของ”รัฐประหาร”
หากสภาผู้แทนราษฎรเคยแสดงมติ”ร่วม”ในเรื่องเลื่อนญัตติด่วนให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญให้มีการพิจารณาเร็วขึ้นด้วยคะแนนอันเป็นเอกฉันท์มาแล้ว
ญัตติด่วนอันเกี่ยวกับคำสั่ง ประกาศคสช. และคำสั่งหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 ก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น
เพียงแต่ด้วย”มุมมอง”อันแตกต่างกันเท่านั้น
หากการนำเสนอญัตติของ นายปิยบุตร แสงกนกกุลและคณะอาจสะท้อนมุมในด้านอันเป็นผลเสีย ผลกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างมีนัยสำคัญ
มีความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติ ไทย อาจจะโต้แย้งและเสนอด้านดีของคสช. ด้านดีอันเป็นผลพวงของรัฐประหารออกมา
ทั้งนี้รวมถึง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา อีกด้วยว่าจะมีความเห็นเช่นใด
หากย้อนกลับไปพิจารณาผลสะเทือนของรัฐประหารในกาลอดีต ญัตติ ด่วนในลักษณะมีการทบทวนคำสั่งประกาศ คสช. ตลอดจนคำสั่งหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 นี้
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการรัฐประหารที่ผ่านมา
ด้านหนึ่ง ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าผลของรัฐประหารมิได้มีแต่ด้านดี หากแต่ยังมีด้านเสีย
ด้านหนึ่ง ย่อมสะท้อนถึงพัฒนาการทางการเมือง
ไม่เพียงแต่สะท้อนว่าพรรคการเมืองบางพรรค #อยู่ไม่เป็น หากแต่ยังสะท้อนว่าพรรคการเมืองบางพรรค #อยู่เป็น อีกด้วย
