เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมการทำงานของ อบต.ดุซงญอ และติดตามโครงการระบบไฟฟ้าส่องสว่างอัจฉริยะโซลาร์เซลล์ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน เพื่อการส่งเสริมและการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน มีนายอับดุลราซัค บาโด นายก อบต.ดุซงญอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และชาวบ้านให้การต้อนรับและบรรยายสรุปเกี่ยวกับพื้นที่ดุซงญอและโครงการไฟฟ้าอัจฉริยะ
นายเอกรัฐกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ลำพะยา จ.ยะลา จนมีชุด ชรบ.เสียชีวิต 15 คน นายกรัฐมนตรีได้กำชับ 2 เรื่อง คือ การให้ ชรบ.มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไฟฟ้าส่องสว่างสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และเน้นย้ำเรื่องการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
”ระบบไฟฟ้าส่องสว่างที่ อบต.ดุซงญอ ได้ติดตั้งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณกองทุนเพื่อการส่งเสริมและการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่ได้จัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเท่าที่ติดตามระบบที่ติดตั้งใหม่ ควบคุมด้วยอินเตอร์เน็ต (IOT) และมีการรับประกันนาน 5 ปี นับว่ามีประโยชน์ต่อชาวบ้านที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย” นายเอกรัฐกล่าว และว่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งการมีไฟฟ้าส่องสว่างนับเป็นสิ่งที่ดีในการใช้ชีวิตของพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะเป็นการลดเหตุรุนแรงลงได้
จากนั้นเวลา 19.00 น. นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เป็นประธานใช้ไฟฟ้าส่องสว่างอัจฉริยะโซลาร์เซลล์ของ อบต.ดุซงญอ โดยนายอับดุลรอซัคกล่าวว่า อบต.ดุซงญอได้รับงบประมาณ 31.5 ล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างไฟฟ้าส่องสว่าง 480 ต้น ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่ดุซงญอมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน การมีไฟฟ้าส่องสว่างโซลาร์เซลล์ จะช่วยให้การดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านได้มากขึ้น พร้อมกล่าวขอบคุณนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่เห็นความสำคัญของปัญหาในพื้นที่
ขณะเดียว บรรดาผู้นำศาสนา ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันละหมาดฮายัตเพื่อขอพรให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุการความรุนแรงที่ ต.ลำพะยา จ.ยะลา และขอพรให้นายสนธิรัตน์กับนายกุลิศด้วย
