เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นายชัยเกษม นิติสิริ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตั้งประธาน กรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (กมธ.) ว่า ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่ิองการตั้งประธาน กมธ. อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานก็ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่เนื้อหา ความตั้งใจ และความกล้าหาญจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นมาอย่างพิสดาร ดังนั้นการแก้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายคนที่จะยอมให้แก้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ส่วนจะมีการดึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ มาร่วมด้วยหรือไม่นั้น อย่าคาดเดาดีกว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในบ้านเราในระยะเวลานี้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่ยังมีอำนาจและอิทธิพลว่าต้องการให้ประเทศเดินต่อไปในรูปแบบไหนอย่างไร ที่ผ่านมาเรารู้อยู่ว่าไม่ใช่เรื่องของประชาชนที่ทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา แม้จะบอกว่ามีการทำประชามติ แต่ก็รู้กันอยู่ว่าฝ่ายที่อยากให้เป็นประชาธิปไตยถูกกันทุกวิถีทาง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ตนไม่คิดว่าง่ายที่จะแก้ในจุดที่เราคิดว่าควรจะแก้ แม้ว่าอาจจะสามารถแก้ไขได้บ้าง แต่อาจจะยังไม่สามารถทำให้เป็นไปในทิศทางที่อยากจะให้เป็น คิดว่าวุฒิสมาชิกจะยอมแก้หรือไม่ เพราะค้ำอำนาจกันอยู่ ไม่ควรคาดหวัง แต่ก็มีบางอย่างที่จำเป็นต้องแก้ เพราะเห็นว่า แม้แต่ฝ่ายที่ปกครองอำนาจในปัจจุบันก็ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศได้ด้วยเหตุผลปัจจัยหลายประการ อย่างการนับคะแนน ส.ส. หรือกรณีอื่นๆ ที่เกิดความผิดเพี้ยนไปหมด ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับคนที่มีอำนาจว่าเขาจะเห็นว่าควรจะต้องแก้ ไม่อย่างนั้นเขาอยู่ไม่ได้ หรืออยู่ก็ไม่ดีเท่าที่ควร ก็คงต้องแก้ แต่ถ้าอะไรที่คิดว่าจำเป็นต่อการอยู่ก็คงไม่แก้ ยกตัวอย่าง ส.ว. แก้ง่ายๆไม่ได้ ค่อนข้างยากพอสมควร
“ไม่ควรให้ความสำคัญมากเกินไปกับผู้ที่จะมาเป็นประธานกรรมาธิการ เพราะโดยหลักการแล้ว ประธานคือคนคุมเกมของการประชุม แต่การโหวตเสียงในสภา กรรมาธิการสำคัญกว่า เพราะการที่จะผ่านแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็น ต้องเป็นไปตามมติของกรรมาธิการ ประธานกรรมาธิการอาจจะมีลูกเล่นได้ในบางเรื่อง บางอย่าง ดึงได้ ยื้อได้ แต่ไม่ใช่เสียงเด็ดขาดที่ควรจะให้ความสนใจนัก ทั้งนี้ อย่างน้อยประธานต้องมีความรู้และประสบการณ์เรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่อย่างนั้นจะชี้นำประเด็นไม่ได้ ยกประเด็นไม่ได้ และจะกลายเป็นสู้กันแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร สำหรับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านก็เป็นผู้มีประสบการณ์ยาวนาน แต่หากว่าจะเอาคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ มาเป็นประธานนั้น ถ้าท่านจะมานั่งแก้ต่างเรื่องที่ได้ทำไว้จนเกิดปัญหามากมายก็คงไม่เหมาะสม ส่วนตัวไม่ขัดข้องว่าใครจะมาเป็นประธานกรรมาธิการ ขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ให้เกิดประโยชน์ แก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพวกพ้องหรือกลุ่มคนที่ตัวเองสนับสนุนเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ทางด้านคุณสุชาติ ตันเจริญ ก็มีประสบการณ์พอสมควร แต่ถ้าเทียบคุณสุชาติกับคุณอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์มีประสบการณ์ทางด้านรัฐธรรมนูญมากกว่า แต่คุณสุชาติก็ไม่ได้น่ารังเกียจอะไร ถ้าท่านทำหน้าที่ของท่านโดยไม่คิดถึงว่าท่านเป็นพลังประชารัฐมากเกินไปก็เพียงพอแล้ว คุณอภิสิทธิ์ก็เช่นเดียวกัน หากทำหน้าที่โดยคิดว่าทำอะไรจะต้องเป็นประโยชน์กับประชาธิปัตย์จึงจะดีต่อรัฐธรรมนูญ หากคิดเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรดีเช่นเดียวกัน ต้องเป็นกลาง ตรงไปตรงมา และทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง เพียงเท่านี้จะเป็นใครก็ได้มีความรู้ที่จะคุมเกมได้ เพราะประธานไม่ใช่เสียงที่จะชี้ขาด หากแต่เป็นกรรมาธิการ” นายชัยเกษมกล่าว
