09.00 INDEX คำขาด กรรมาธิการ ป.ป.ช. คำขาด ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แนวรบที่ร้อนแรงที่สุดในความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิใช่แนวรบกรรมาธิการวิสามัญแก้ไข รัฐธรรมนูญ
ตรงกันข้าม เป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบมากกว่า
เพราะกรรมาธิการวิสามัญเสมอเป็นเพียงเรื่อง “ประธาน”
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเพียงกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาหาหลักเกณฑ์และวิธีการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังไม่ผ่านความเห็น ชอบจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยซ้ำไป
ตรงกันข้าม กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบมีสถานะที่เด่นชัดและมีประธานที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
นี่ต่างหากคือ “แนวรบ” ที่ตั้งประจันอยู่เบื้องหน้า
ต้องยอมรับว่าทางฝ่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จัดแนวรบเพื่อต้านยันการรุกจากคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเต็มพิกัด
เห็นได้จาก 1 ดำเนินการเปลี่ยนตัวกรรมาธิการในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ
ส่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นายสิระ เจนจาคะ เข้าไป
เปิดเกมรุกไม่เพียงแต่ต้านมติของคณะกรรมาธิการ หากยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนตัวประธาน
เห็นได้จาก 1 อาศัยเวทีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้วินิจฉัยกระทั่งมีความเห็นว่าพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2554 อาจขัดกับรัฐธรรมนูญ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด
กระนั้น ก็ยังมิอาจสกัดกั้นบทบาทของ “กรรมาธิการ”ได้
เพราะในวันเดียวกับที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยออกมาทางด้าน คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบก็มีหนังสือด่วนที่สุด
ที่สผ.0019.05/945 เชิญตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
มาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นด้วยตนเอง
ทั้งนี้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมาธิการเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3
นี่คือการปะทะระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร