เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 15 มิถุนายน ที่สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ อายุ 48 ปี พ่อน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 และหนึ่งในแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ มายังสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
โดย พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวนายพันธ์ศักดิ์ มาดำเนินคดี แต่เป็นการเชิญตัวมาสอบถามข้อมูลที่จะไปจัดกิจกรรมเท่านั้นและเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุมอีกกลุ่ม เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่าจะมีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ มีนายพันธ์ศักดิ์ และนายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เป็นแกนนำมาทำกิจกรรมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปทำกิจกรรมด้านใน ให้เพียงแค่ชุมนุมด้านนอกเท่านั้น จึงจัดกำลังทั้งทางสน.ทุ่งสองห้อง และ บก.น.2 มาดูแลความเรียบร้อย
พ.ต.อ.มานะ กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 15.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีความเห็นต่างทางการเมืองอีกกลุ่มประมาณ 200 คน เดินทางมายังศูนย์ราชการโดยอ้างว่าจะมาให้กำลังใจ กกต. เจ้าหน้าที่จึงประสานให้ กกต.ออกมารับช่อดอกไม้ ก่อนจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมย้ายไปชุมนุมกันที่หน้าตึกด้านตะวันออก เพื่อไม่ให้พบกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่มีการชุมนุมก่อนหน้า ทั้งนี้ได้นำตัวนายพันธ์ศักดิ์ และนายสิรวิชญ์ แยกเข้าไปภายในกกต. เพื่อไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันกับกลุ่มผู้สนับสนุนกกต. โดยการมาชุมนุมของกลุ่มสนับสนุนได้มีการทำหนังสือยังมายังสน.ทุ่งสองห้องแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การชุมนุม 2558 จึงประกาศให้ยุติการชุมนุม ได้รับความร่วมมือโดยดี
พ.ต.อ.มานะ กล่าวอีกว่า จากนั้นไม่นานนายพันธ์ศักดิ์ เดินออกมารวมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่หน้าเสาธงศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โดยนายนายพันธ์ศักดิ์ อ้างว่าจะมาจัดกิจกรรมร้องเพลงให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ฟัง เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ยุติ เนื่องจากหมิ่นแหม่ ที่จะผิดมาตรา 61 นายพันธ์ศักดิ์ ให้ความร่วมมือก่อนผู้ชุมนุมจะเริ่มสลายตัว แต่เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาสนับสนุน กกต. หลงเหลืออยู่บางส่วน และเกรงว่าอาจมีการกระทบกระทั่งหากได้พบหน้ากัน เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายพันธ์ศักดิ์ พร้อมน.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความ มายังสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อสอบถามข้อมูลการมาจัดกิจกรรมเท่านั้น และไม่ได้แจ้งดำเนินคดีใดๆกับนายพันธ์ศักดิ์ และนายสิริวิชญ์ แต่อย่างใด
ด้านนายพันธ์ศักดิ์ เปิดเผยว่า มาทำกิจกรรมเพื่อจะมาเต้นประกอบจังหวะเพลง “อย่างนี้ต้องตีเข่า (โหวดไม่เอา แล้วตีตก)”ตนเป็นผู้แต่งเพลงนี้ เพื่อให้นายสมชัย ที่มีข้อสงสัยถึงการแต่งเพลงนี้ได้เข้าใจถึงเนื้อหาเพลงดังกล่าว แต่ไม่คิดว่าจะมีกลุ่มต่อต้านออกมาก่อกวนจนไม่สามารถจัดกิจกรรมขึ้นมาได้ ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาขอร้องไม่ให้ทำกิจกรรมเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะมีมวลชนอีกฝ่ายที่มาชุมนุมและด่าทอนายสิรวิชญ์ เจ้าหน้าที่จึงแยกให้ตนและนายสิรวิชญ์ ไปพักอยู่ใน กกต. หลังจากนั้นตนออกมาประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมเดินทางกลับเนื่องจากเวลาไม่เหมาะสมในการทำกิจกรรม เมื่อมวลชนแยกย้ายกันแล้ว ตนจึงจะเดินกลับไปหานายสิรวิชญ์ แต่เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกฝ่ายยังอยู่บริเวณโดยรอบเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงเชิญมายังสน.ทุ่งสองห้อง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลในการมาทำกิจกรรมเท่านั้น ไม่ได้ควบคุมเพื่อมาดำเนินคดีแต่อย่างใด
