เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายสุหฤท สยามวาลา นักธุรกิจ และอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความ แสดงความเห็น กรณีกลุ่มเหยื่อแชร์ลูกโซ่ เข้ายื่นหนังสือถึง ส.ว. ขอให้มีการออกกฎหมาย ตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่อแชร์ลูกโซ่ โดยระบุว่า
“คือแบบว่าไม่มีทางเข้าใจตรรกะคนไปขอให้ตั้งกองทุนเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากแชร์ลูกโซ่เลย ในข่าวบอกว่าเยียวยาช่วงเรื่องอยู่ในคดี กันคนเศร้าหนัก เอิ่ม พี่ครับ เวลาพี่ได้เงินแชร์พี่ดีใจซื้อข้าวของ พี่เสียภาษีอะไรเข้ารัฐไหมครับ ยิ่งเยียวยา แชร์ลูกโซ่จะระบาด คนกล้าเสี่ยงต่อไปแน่ๆ นี่กำลังคิดอะไร ทำอะไรกันครับนี่ ผมงี้มึนหนัก” นายสุหฤทกล่าว
ก่อนหน้านี้ สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการและนักเขียนด้านเศรษฐศาสตร์ ก็ได้เคยแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวในเชิงไม่เห็นด้วยไว้ว่า
“ไม่เห็นด้วยเลยนะคะ เห็นใจทุกคนที่โดนหลอก แต่การปล่อยกู้และการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยงเสมอ คนที่ถูกหลอกอย่างดีที่สุดก็ควรเร่งรัดให้ตำรวจทำงาน สุดท้ายศาลอาจจะตัดสินให้ยึดทรัพย์สินของคนโกงมาขายชดเชย แต่เหยื่อควรทำใจว่าอย่างมากจะได้ชดเชยแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะเขาหลอกแบบจับเสือมือเปล่า เอาเงินคนอื่นมาหลอกต่อเป็นทอดๆ ไม่ได้มีรายได้มหาศาลขนาดนั้น รัฐไม่มีหน้าที่เอาเงินสาธารณะ (ของทุกคน) มาชดเชยผลขาดทุนจากการลงทุนของคนไม่กี่คน ลองดูตลาดหุ้นเป็นตัวอย่าง”
“สังเกตว่าเรื่อง “ความเสี่ยง” เป็นเรื่องที่ในไทยยังต้องมีการให้ความรู้ผู้คนอีกมาก ที่จริงเป็นส่วนสำคัญเลยของความรู้เรื่องทางการเงิน (financial literacy)”