พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันที่ 18 พ.ย. ทางดีเอสไอจะไปยื่นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติกลาง ให้พิจารณาว่าการให้สัมภาษณ์ของ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาคดี นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ เข้าข่ายการยุ่งเหยิงพยานหลักฐานทางคดีในส่วนใดบ้าง อีกทั้งจะต้องพิจารณาในประเด็นขอกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อขอให้ศาลพิจารณาถอนการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวกำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวน การที่นายชัยวัฒน์ระบุถึงพยานหลักฐานทางคดี กล่าวถึงการทำงานของพนักงานสอบสวน การได้มาซึ่งพยานหลักฐานในลักษณะลดความน่าเชื่อถือ และชี้นำ ซึ่งตามกฎหมายสามารถยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนประกันได้
สำหรับนายชัยวัฒน์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่าและอำพรางการเสียชีวิตของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชาวกะเหรี่ยงเพชรบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัว และทางดีเอสไอได้จับตาการออกสื่อ การไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย การเดินทางไปออกรายการทีวี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แกะเทปรายการทีวีเสนอให้ศาลพิจาณาประกอบคำขอด้วย
สำหรับกรณีนายบิลลี่หายตัวไปหลังจากถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานควบคุมตัว เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน และถือเป็นปัญหาทางด้านสิทธิมนุษยชนที่รับทราบกันในระดับนานาชาติ และการที่เอาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อประเทศโดยส่วนรวม การที่ดีเอสไอพบหลักฐานกระดูกของนายบิลลี่จนนำมาสู่การตั้งข้อหากลุ่มผู้ต้องหา เป็นสัญญาณที่ส่งผลดีว่า ความเป็นธรรมน่าจะเกิดขึ้น ทุกฝ่ายควรเดินเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความถูกผิดโดยให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
