ครม.เพิ่มบทบัญญัติร่างกม.ประกันชีวิต-วินาศภัย ปิดทางจนท.แสวงหาผลประโยชน์

ครม.เพิ่มบทบัญญัติ พ.ร.บ.ประกันชีวิต-วินาศภัย ปิดทางจนท.แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันชีวิต และร่างพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ใช้มาแล้ว ตั้งแต่ปี 2535 โดยในเนื้อหาของพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับขาดบทบัญญัติ ที่จะช่วยส่งเสริมการโอนกิจการ และการจัดการในกรณีมีการแสวงหาผลประโยชน์ โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และผู้ที่เป็นตัวการร่วม หรือให้การสนับสนุน

ฉะนั้น เนื้อหาที่ยังไม่ครบในส่วนนี้ ครม.เห็นชอบให้มีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน จึงมีการเพิ่มเติมบทบัญญัติดังกล่าวใน 3 ส่วนคือ 1.การโอนกิจการที่มีผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวลูกหนี้ผู้รับประกันภัย เมื่อบริษัทผู้รับโอนกิจการมีหนังสือบอกกล่าวที่มีผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวลูกหนี้ ผู้รับประกันภัย เมื่อบริษัทผู้รับโอนกิจการ มีหนังสือไปยังผู้รับประกันภัยว่าบริษัทรับโอนกิจการมาแล้ว และแจ้งสิทธิให้ผู้ประกันภัยคัดค้าน หากไม่มีการคัดค้าน ก็ให้ถือว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่ ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ผู้รับประกันภัย 2.การให้บริษัทสามารถจดทะเบียนควบรวมกิจการได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ทุกรายให้ความยินยอมเป็นหนังสือโดยไม่ต้อรอให้พ้นระยะเวลาคัดค้าน 3 .ให้บริษัทที่รับโอนกิจการสามารถเข้าสวมสิทธิ์ เป็นคู่ความแทนบริษัทที่โอนกิจการในคดีที่มีการฟ้องร้องในศาลได้ โดยสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ตามคำพิพากษาได้

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมบทกำหนดโทษ เช่น การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบของกรรมการ พนักงานบริษัท จัดทำรายงานรับรอง หรือแสดงความเห็น เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทอันเป็นเท็จ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image