นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลงาน 20 ปีสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า สถิติเรื่องร้องเรียนตลอด 20 ปีของสำนักงาน ป.ป.ช. พบว่าในปี 2559 มีจำนวนเรื่องร้องเรียนมากที่สุด 5,382 เรื่อง ปัจจุบัน ป.ป.ช.มีเรื่องค้างพิจารณา 14,717 เรื่อง พิจารณาแล้วเสร็จ 4,782 เรื่อง โดยในปี 2563 ป.ป.ช.สัญญาว่า จะไต่สวนคดีที่เป็นที่สนใจของประชาชนที่ค้างอยู่ในการพิจารณาให้แล้วเสร็จ 15 คดี
คดีที่ ป.ป.ช.ให้สัญญาไว้ มีอาทิ คดีการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยปี 2556 คดีการปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2557 คดีทุจริตในการดำเนินการก่อสร้างฝายและเพาะชำปลูกหญ้าแฝกตามโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ (ฝายแม้ว) คดีการอนุญาตเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการเมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือ คดีทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูที) ภาค 2 คดีทุจริตการซื้อขายมันสำปะหลังแบบจีทูจี คดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 และอัลฟ่า 6 คดีทุจริตในการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย คดีทุจริตในการซื้อขายเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน โบอิ้ง บี777-200อีอาร์ ของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน (คดีสินบนโรลส์-รอยซ์) เป็นต้น ซึ่งคดีเหล่านี้ บางคดีดำเนินการไปแล้วกว่า 60% บางคดีคืบหน้าถึง 80-90% ทาง ป.ป.ช.จึงสัญญาเอาไว้ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในปีหน้า
คำสัญญาของ ป.ป.ช.เกี่ยวกับเวลาของการดำเนินการหาข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนแต่ละสำนวนนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายอยากเห็นและมีความสำคัญที่สุด คือ คำแถลงของนายวรวิทย์ในช่วงท้ายที่ระบุถึงค่านิยมของ ป.ป.ช.ที่ว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนของ ป.ป.ช.พร้อมเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งภายใต้ค่านิยม “ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ” จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ช.ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การพิจารณาวินิจฉัยคดีทุกอย่างต้องมีพยานหลักฐานและจะดำเนินการอย่างรวดเร็วเป็นมืออาชีพที่มีประสิทธิภาพ ถ้อยแถลงในช่วงท้ายนี้เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนรวมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องต้องการให้เกิดขึ้น และมีความหวังว่า ป.ป.ช.จะสามารถธำรง
ค่านิยมดังกล่าวเอาไว้อย่างสมศักดิ์ศรี ป.ป.ช.