“ชูศักดิ์” ให้กำลังใจ “ธนาธร” พร้อมยกคำสอนวงนิติศาสตร์ฝาก “ธนาธร” ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 7 ต่อ 2 เสียง ให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) สิ้นสุดลง กรณีการถือครองหุ้นสื่อ ว่า อยากเป็นกำลังใจให้นายธนาธร ขอให้มีความมุ่งมั่นต่อไป อย่าท้อแท้ พวกเราเจออะไรมามากกว่านี้ มากมาย ทั้งยุบพรรค ตัดสิทธิ ก็ยังคงยืนหยัดที่จะสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้แง่คิดว่าเขาอบรมสั่งสอนกันมาในแวดวงนิติศาสตร์ว่า ความยุติธรรมมีสองอย่าง หนึ่ง ความยุติธรรมตามแบบแผน คือไม่ทำตามแบบ ตามหลักเกณฑ์ที่เขากำหนด ผิดหลักเกณฑ์ แสดงว่าไม่ทำตามหลักเกณฑ์ที่เขากำหนด ผู้กำหนดเป็นผู้มีอำนาจก็ใช้ได้ ไม่ต้องคำนึงว่าหลักเกณฑ์นั้นถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ เช่น รัฐธรรมนูญมีที่มาจากเผด็จการยึดอำนาจ บทบัญญัติผิดหลักการประชาธิปไตย กฎหมายจากสภาเผด็จการ ถือเป็นกฎหมายตามรูปแบบ ศาลไทยยอมรับกฎหมายจากเผด็จการ อ้างว่าเป็นรัฐาธิปัตย์ นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า สอง คือความยุติธรรมตามธรรมชาติ คือกฎหมายจะต้องไม่ฝืนต่อความรู้สึก ความถูกต้องชอบธรรม เขาบอกว่ากฎหมายต้องสอดคล้องต้องกันกับความยุติธรรมที่มีเหตุมีผลตามธรรมชาติ ต่อมาอธิบายว่าต้องสอดคล้องกับหลักนิติธรรม ที่มีและเป็นอยู่ การจะลงโทษคนบ้านนอกที่ครอบครองไม้ต้องห้ามโดยไม่รู้จริงๆ ว่าทางการเพิ่งประกาศเป็นไม้หวงห้าม จะต้องคำนึงถึงความยุติธรรมตามธรรมชาติ ตามความเป็นจริง เขาจึงมีหลักต่างๆ ที่เป็นหลักนิติธรรม เช่น ห้ามออกกฎหมายย้อนหลัง กฎหมาย ที่มีผลร้ายแก่คน เป็นการลงโทษคน ต้องชัดเจนแน่นอน มีเหตุ มีผล เขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมานาน วันดีคืนดีก็ใหัเขามาเสียค่าบำรุงภายใน 30 วัน ไม่มาขาดสมาชิกภาพ ต้องไม่ตีความกฎหมายที่ผลร้ายต่อคนไปในทางขยายความอันเป็นโทษแก่บุคคล เป็นต้น ประเทศเราเป็นประเทศที่สนใจกฎหมายตามแบบพิธี สนใจเพียงว่ามาตรานั้น มาตรานี้บัญญัติว่าอย่างไร ไม่สนใจที่มา สาระว่าเป็นกฎหมายที่มาอย่างไร เป็นไปตามหลักนิติธรรมหรือไม่ ขอแสดงความเห็นเป็นกำลังใจสำหรับนายธนาธร เอาเรื่องนี้ไปช่วยกันคิดปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมกัน
