สถานีคิดเลขที่ 12 : อยู่ เป็น นาน-นาน

ชะตากรรมของฝ่าย อยู่ไม่เป็น
ก็คงเป็นไปตามคาดหมาย
นั่นคือ คงเผชิญ ปฏิบัติการ จองเวร “ไม่ให้อยู่” จะให้ติดคุก-ตัดสิทธิการเมือง ต่อไป

ไม่ต้องอธิบายให้มากว่า “ทำไม”
ส่วนชะตากรรมของ ฝ่ายอยู่เป็น
แถมอยู่เป็นแบบ “อยู่ยาวตามสมควรนะ”
ก็น่าสนใจว่า จะราบรื่น เหมือนเดินบนพรมเขียว หรือไม่
แต่เอาไว้ทีหลัง

แวะไปเรื่อง “อิ่มเอิบใจ” ก่อนสักนิด
นั่นคือการเสด็จมาเยือนไทยของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก
และการต้อนรับอบอุ่นจากฝ่ายไทย
ทั้งจากเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
ทั้งจากการเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
และการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ไม่ทราบ รู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า
หลังติดตามอ่านสุนทรพจน์ของแต่ละท่านแล้ว
ต้องยอมรับว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส และสมเด็จพระสังฆราช ทรงเตรียมการอย่างดี
คมคาย ไพเราะ ลึกซึ้ง รอบด้าน ครบทั้งประวัติศาสตร์ การศาสนา การทูตและสิ่งที่เชื่อมโยงกับโลกปัจจุบัน

Advertisement

เสียดาย สักนิดก็คือ คำกล่าวของ ผู้นำบริหารฝ่ายไทย
ที่อ่านหรือฟังแล้ว ก็เป็นท่านประยุทธ์
หลับตา ก็นึกออกว่า จะพูดอะไร
วนเวียน “เป็นเช่นนั้น” อยู่นั่นเอง

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส นานๆ เราได้ฟังที ยกไว้
ส่วนสมเด็จพระสังฆราช เราก็ได้ฟังพระดำรัสหลายครั้ง แต่ทุกครั้งมีสิ่งให้ “จับใจ” เสมอ รวมถึงครั้งนี้  เตรียมการดีมาก
ต่างกันมากกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ “พื้นมาก”

ไม่อยากโทษที่นายกฯ
แต่โฟกัสไปที่ทีมงาน ที่ปรึกษา ฝ่ายเสธ อาจจะต้องมีคำถามว่า มีข้อจำกัดในความรู้โดยเฉพาะที่เกี่ยวพันไปถึงศาสนาหรือเปล่า
เมื่อรู้ว่า มีข้อจำกัด ได้แก้ไขด้วยการไปปรึกษา หรือหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งตรงนี้ อาจไม่ใช่ปัญหาเฉพาะกรณีนี้

Advertisement

หากแต่รวมหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่มีการวิจารณ์ว่า นายกฯมาจากทหาร และทีมงานที่แวดล้อมส่วนใหญ่     ก็เป็นทหาร
ซึ่งแม้จะมากด้วยความสามารถเพียงใด
แต่ก็คงไม่แจ่มแจ้ง ทุกเรื่อง
จำเป็นต้องมีทีมงานเฉพาะด้าน เฉพาะสาขามาช่วยเสริม

ย้อนไปตอนสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ
พล.อ.เปรมมีข้อจำกัดในเรื่อง “เศรษฐกิจ” และไม่ปฏิเสธใน “จุดอ่อน” นี้
ทำให้แวดล้อม พล.อ.เปรม ตอนนั้น เต็มไปด้วยนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งภาครัฐ เอกชน และนักวิชาการ
ที่มาช่วยป้อนข้อมูล ให้ความเห็น ซึ่งแน่นอนมากด้วยความหลากหลาย
แต่ พล.อ.เปรมก็ใช้ความเป็นผู้นำ ในการตัดสินใจ ขั้นสุดท้าย
ทำให้ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจสำคัญมาได้ และยังปูพื้นฐานเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วย
ภาพในอดีตเช่นนั้น ไม่เคยได้รับการเรียนรู้ แล้วปรับมาใช้ ในวันนี้

วันที่เรามีนายกฯนั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน แต่การทำงานแตกต่างกันเยอะ
เราได้ยินการเรียกร้อง ให้มีการปรับการทำงานของทีมเศรษฐกิจจากผู้นำ
แต่ถามลงในรายละเอียดว่า ปรับอย่างไร แก้แบบไหน ก็ดูจะไร้คำตอบ
หัวหน้าทีมก็ยังพูดในสิ่งเดิมๆ
จะถามที่ปรึกษา ก็ไม่มี
จะคุยกับทีมงาน ทุกคนก็โบ้ยกลับให้เป็นเรื่องของนายกฯ
เลยทำให้วิกฤตเศรษฐกิจตอนนี้ ไม่รู้จะแก้แบบไหน

และนี่อาจโยงให้รู้ว่าทำไม สุนทรพจน์ของผู้นำกรณีโป๊ปเสด็จมาเยือนไทยจึงพื้นๆ
ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ทำให้เรารู้ ที่บอกว่า จะอยู่นานๆ
นานแบบไหน
มีความหวัง หรือเพราะแค่จะ “อยู่” ให้นานเพราะเงื่อนไข “อื่น” มิใช่ความรู้-ความสามารถ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image