เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โพสต์ข้อความ แสดงความเห็น หลังไปแจ้งความปัญหาการรุกที่ดินป่าสงวนและที่ ส.ป.ก.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า
นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา รับสารภาพเองว่าเป็นคนซื้อที่ดินจากชาวบ้านเพียง 700 ไร่ ไม่ใช่ 1,700 ไร่ และที่ดินดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ โดยอ้างเอาเองว่าตนมีสิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าว หากตนเองผิดคนที่ครอบครองที่ดินในอำเภอจอมบึงและอำเภอสวนผึ้งกว่า 90% ก็จะมีความผิดทั้งหมดด้วย เอาคนอื่นเป็นตัวประกันด้วย
ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่ามีความพยายามจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงครอบครัวของ น.ส.ปารีณาเอง เพื่อจะช่วย น.ส.ปารีณาให้พ้นผิด โดยทำให้สังคมมาเข้าใจใหม่ว่าที่ดินป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุก ยึดครอง มีจำนวนเพียง 700 ไร่ (ตัวเลขตรงๆ จะให้เหลือ 691ไร่) เท่านั้น พยายามถ่วงเวลาการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา อ้างว่าสเกลที่ใช้ในการวัดพื้นที่ของป่าไม้และของ ส.ป.ก.ไม่ตรงกัน (ถ้าใช้สเกลไม่ตรงกันแล้วที่มีการปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วประเทศไปแล้วกว่า 36 ล้านไร่ ใช้สเกลอะไรวัด) และอ้างว่าที่ดินเกือบทั้งหมดอยู่ในเขต ส.ป.ก. จะได้ใช้อำนาจของ ส.ป.ก.ยึดที่ดินดังกล่าวคืนแล้วก็จบ ดำเนินคดีอาญาไม่ได้ อ้างว่าหมดอายุความ แต่พวกเขาจะพยายามแถ พยายามพลิกแพลงอย่างไรก็ไม่พ้นผิด เพราะที่ดินดังกล่าวทั้งหมดยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ของป่าไม้ และยังไม่หมดอายุความเอาผิดทางอาญา ที่สำคัญผมไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นแน่
หากเจ้าหน้าที่ป่าไม้และ ส.ป.ก.ยอมให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
มันจะยอมให้ น.ส.ปารีณาติดคุกและหลุดจาก ส.ส.ไม่ได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาลประยุทธ์อย่างมาก แต่การช่วยให้ น.ส.ปารีณาพ้นผิดในครั้งนี้ ก็มีเดิมพันสูงมาก หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจ ต้องเสี่ยงต่อการถูกประท้วงขับไล่อย่างรุนแรง แต่มันเชื่อว่าด้วยอำนาจทหารที่มีอยู่ในมือ หากถึงทางตันอีก มันก็อาจทำรัฐประหารอีกก็ได้
หากเป็นเช่นนั้น มันก็ถึงเวลาล้างแผ่นดินล้างพวกชั่วช้าให้หมด เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ เดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบเสียที