‘ชาดา’ ข้องใจ ได้ลงมติเลื่อนแบน 3 สารหรือไม่ ลั่น ‘มนัญญา’ ไม่จำเป็นต้องลาออก เล็งดันกรมวิชาการเกษตรให้อุตฯ

“ชาดา” งง “สุริยะ” ใช้มติอะไรแถลงข่าวปมขยายเวลาแบน 3 สารเคมี ลั่น “มนัญญา” ไม่จำเป็นต้องลาออก ชี้คนที่ต้องออกคือคนที่เอาสารพิษ พร้อมผลักกรมวิชาการเกษตรคืนให้ รมว.อุตสาหกรรม

เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิกการแบนสารไกลโฟเซต และขยายการแบนสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอสต่อไปอีก 6 เดือนว่า เราได้ทำงานของเราเสร็จแล้ววันนี้ก็อยู่ที่ประชาชน วันนี้เรามาสุดทางแล้ว เพราะอำนาจทั้งหมดขณะนี้อยู่ที่ รมว.อุตสาหกรรม ตลอดจนอธิบดีและข้าราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งถือว่าเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ แต่ตนอยากถามว่าวันนี้ที่ประชุมได้มีการลงมติหรือไม่ หากไม่ได้มีการลงมติแล้วมาแถลงแบบนี้ สื่อมวลชนต้องไปสอบถามผู้เข้าร่วมประชุมว่ามีการลงมติหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้รายละเอียดในที่ประชุมได้ แต่จากการสอบถามบุคคลที่เข้าร่วมประชุมบางคนบอกว่าไม่ได้มีการลงมติ ซึ่งหากไม่มีการลงมติจริงๆ ตนอยากถามว่าแล้วใช้อำนาจอะไร

เมื่อถามว่า น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า คงไม่ให้แถลง เพราะเชื่อว่าจะทะเลาะกันเสียเปล่า เพราะวันนี้อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของ น.ส.มนัญญา แล้ว เพราะขณะนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อสังคม หากเกิดอะไรขึ้นต่อประเทศนี้ในเรื่องของสารพิษ และต้องบอกให้ได้ว่ามีเหตุผลอะไรจึงมีมติแบบนี้ออกมา จะต้องบอกให้ชัดเจนว่าเป็นการลงมติหรือการแถลง ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะต้องยกเลิกมติเดิมก่อนแล้วจึงจะมีการประชุมเพื่อขอมติ ซึ่งจากที่เราทราบมายังไม่ได้มีการลงมติเลย แต่มีการออกมาแถลงรวมๆถามว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วมาอ้างว่ากรมวิชาการเกษตรไม่ทำอะไรเลย ซึ่งตนมองว่าหากไม่ทำอะไรเลยก็ไม่น่าอยู่แล้วกรมวิชาการเกษตร เพราะในช่วงเวลา 1 เดือน ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีแผน ไม่มีการทำอะไรเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมวิชาการเกษตรขาดไม่ได้เลยกับสารนี้ น่าจะเอาไปกินที่บ้าน

เมื่อถามว่า จะยุติเรื่องดังกล่าวเพียงเท่านี้หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า เราไม่ยอมอยู่แล้ว เพียงแค่วันนี้หมดอำนาจหน้าที่เราแล้ว ตนขอถามเพียงว่าแล้วประชาชนจะยอมหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีผลภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญคือคนที่เป็น รมว.อุตสาหกรรม จะต้องตอบคำถามต่อประชาชนให้ได้ ซึ่งต้องเป็นคำตอบที่นอกเหนือจากเหตุผลที่ไร้สาระ ซึ่งสารไกลโฟเซตที่มีการยกเลิกการแบน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านม วันนี้คนที่เป็นแม่จะต้องไปตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

Advertisement

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.มนัญญา เรื่องใดบ้าง นายชาดากล่าวว่า ก็คุยกันตามประสาพี่น้อง ว่าวันนี้เราทำหน้าที่และพยายามเต็มที่แล้ว แล้วเราจะคืนกรมวิชาการเกษตรให้กับรัฐมนตรีว่าการไปดูแลเอง เราขอเปลี่ยนกรมใหม่ เพราะหากอยู่ในสภาพแบบนี้เรารับไม่ได้ ส่วนกรมวิชาการเกษตรจะเอาไปให้ใครดูแลก็แล้วแต่ รมว.เกษตรฯ อย่างไรก็ตาม เท่าที่คุยกับ น.ส.มนัญญาก็ไม่แฮปปี้ ใครจะไปพอใจ ทุกคนก็ไม่แฮปปี้อยู่แล้ว แต่มันก็สุดทางเราแล้ว

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นที่ น.ส.มนัญญาต้องลาออกหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า จะลาออกทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะคนที่จะต้องลาออกน่าจะเป็นคนที่ทำไม่ถูกต้อง วันนี้ตนคิดว่าประชาชนต้องออกมาดีกว่า หรือว่าจะให้จุดเทียนหน้าบ้าน ถ้าประชาชนจุดเทียนหน้าบ้านทุกหลังว่าไม่เอาสารพิษ รัฐมนตรีที่เอาสารพิษก็จบทุกอย่าง และต้องพิจารณาตัวเอง วันนี้อยู่ที่ประชาชนเราทำหน้าที่ของเราเต็มกำลัง เราทนแรงกดดันมาทุกอย่าง โดนด่ากับพวกเสียผลประโยชน์ เราไม่อยากเอาม็อบขาว ม็อบดำมาตอบโต้ เพราะเราไม่อยากให้บ้านเมืองนี้เกิดความไม่สงบ

เมื่อถามว่า ผลการโหวตดังกล่าวถือว่าขัดมติของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนก็ไม่ทราบ เพราะเราทำตามมติของนายกฯ ซึ่งมติดังกล่าวเห็นชัดอยู่แล้วว่าขัดหรือไม่ขัด ทั้งนี้ก็ต้องไปถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายสุริยะว่าขัดหรือไม่ แต่การใช้ข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เมื่อถามต่อว่ารวมตัวกันแถลงถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า บางส่วนเราก็ต้องรักษามารยาททางพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างก็ต้องมีมารยาทถึงแม้ว่าทางเขาจะไม่มีมารยาท เราก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นคนตัดสิน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image