“มทภ.3” แจงเอกสารชี้เป้าจับตายฮาร์ดคอร์ขวางรบ.ของปลอม ย้ำทหารไม่ทำอะไรนอกกม.
จากกรณีมีการแชร์ ภาพหนังสือคำสั่งระบุว่า เป็นเอกสารจาก กองกำลังรักษาความสงบ มทบ.38 ให้ แก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล”ตามนโยบายของรัฐบาล” ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล (คสช.)โดยให้จัดทำรายชื่อผู้มีอิทธิพล ข้อมูล ประเภท และพฤติกรรมของผู้มีอิทธิพล และจัดประเภทผู้มีอิทธิพลเช่น หากเป็นแกนนำฮาร์ดคอร์ หัวรุนแรงขัดขวางการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากมีการขัดขืน แกนนำไม่ฮาร์ดคอร์หรือแกนนำรุ่นที่ 2 ให้ดำเนินการจับกุม ส่วนกลุ่มนักวิชาการและสื่อต่างๆ (ในพื้นที่) หากมีกิจกรรมหรือเสนอข่าวกระทบต่อการปรองดองหรือกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ตักเตือน ติดตามพฤติกรรมการแสดงออก นั้่น
พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงชี้แจงถึงกรณีสื่อโชเชียลมิเดียเผยแพร่เอกสารลับจาก กกล.รส. มทบ.38 ค่ายสุริยพงศ์ เกี่ยวกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับว่า ขอชี้แจงว่าเอกสารที่หลุดออกมาจำนวน 2 แผ่นนั้น ซึ่งแผ่นแรกยอมรับเป็นแบบฟอร์มของมทบ. 38 จริง อันเป็นการสั่งการตามปกติ เกี่ยวกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐบาล และคสช. ที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายอยู่แล้ว แต่ว่าเอกสารแผ่น 2 ที่มีข้อความระบุรายละเอียดถึงการแบ่งประเภทกลุ่มเป้าหมาย และวิธีการดำเนินการนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ใช่ของจริง อีกทั้งไม่ใช่เอกสารทางราชการอย่างแน่นอน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารของใคร และใครเป็นคนนำมาปล่อย อย่างไรก็ตามเราทางกองทัพภาคที่ 3ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วว่าเอกสารดังกล่าวหลุดออกมาได้อย่างไร และเอกสารที่นำมาเพิ่มนั้นมีที่มาจากไหน
“ส่วนแนวทางการดำเนินการกับคนปล่อยเอกสารราชการปลอมนั้น เราต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะเป็นการทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมขอย้ำว่าหน่วยงานราชการทุกหน่วยการจะทำอะไรได้ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย อะไรที่นอกเหนือกฎหมาย ขอย้ำว่าเราไม่กระทำอยู่แล้ว” พล.ท.สมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าเป็นเอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือปลอม มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ทั้งนี้ในเบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาในกองทัพบกได้รับทราบ และได้มีการสั่งการตรวจสอบเนื้อหาข้อมูลในเอกสารดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามกองทัพบกขอเวลาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อน แล้วจะมีการชี้แจงความคืบหน้าในภายหลัง
รายงานข่าวเปิดเผยว่า พล.ต.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผบ.มทบ.38 ได้เรียกประชุมกำลังพลภายในหน่วยเพื่อแจ้งการตรวจสอบเอกสารฉบับดังกล่าวว่าหลุดออกไปภายนอกได้อย่างไร เนื่องจากเป็นนโยบายของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ให้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเอกสารแผ่นแรก ที่ลงนามโดย พ.อ.ภูษิต ปุระเสาร์ รอง ผบ.มทบ.38 นั้นเป็นวิทยุจาก มทบ.38 ที่ส่งไปถึงหน่วยขึ้นตรง 4-5 หน่วยที่ระบุอยู่ที่หัวกระดาษ ซึ่งเป็นเอกสารราชการปกติ ส่วนแผ่นที่สองไม่ใช่เอกสารที่มีในหน่วย และทาง มทบ.38 ไม่มีเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นของปลอม โดยเบื้องต้นได้รายงานไปยัง ผบ.ทบ.แล้ว ทั้งนี้ พล.ต.ชัยณรงค์ จะได้สอบสวนว่าเอกสารหลุดจากหน่วยรับ หน่วยใด เพราะในสำเนาเอกสารที่นำมาส่งต่อมีเบอร์โทรสารที่มีการนำสีมาป้ายทับไว้ ซึ่งตรวจสอบได้ไม่ยากว่ามาจากแหล่งใด
