เทพไท ขยาด! บอกต่อไปนี้จะลงมติตามวิปรัฐบาล ไม่โหวตตามอำเภอใจอีกแล้ว

‘เทพไท’ ขยาด บอกต่อไปนี้จะลงมติตามวิปรัฐบาล ไม่ลงตามอำเภอใจอีกแล้ว ชี้ข่าวปรับ ปชป.บางส่วนแค่โยนหินถามทาง-สร้างกระแสกดดันมากกว่า จะออกจากร่วม รบ.ต้องออกทั้งพรรค ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการตัดสินใจลงมติยืนยันให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 ซึ่งเป็นการสวนมติวิปรัฐบาล ว่าจากการลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช ได้มีโอกาสปราศรัยทางการเมือง ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ได้ชี้แจงเหตุผลของการตัดสินใจการลงมติยืนยันมติเดิมของตัวเองให้ได้รับทราบ ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับและสนับสนุนการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากตนกลับมติเปลี่ยนจากการลงมติในครั้งแรกก็จะถูกตำหนิและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งจนได้รับความเสียหายทางการเมืองเป็นอย่างมาก

“เหตุการณ์ของการลงมติในครั้งที่ผ่านมาก็จะนำมาเป็นบทเรียน และนำไปปรับปรุงการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรในโอกาสต่อไป และสำหรับการทำหน้าที่ ส.ส.ของผม ไม่ว่าจะเป็นการยื่นญัตติ การอภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านญัตติใดๆ จะต้องสอบถามแนวทางหรือต้องหาธงคำตอบจากวิปรัฐบาลก่อนการดำเนินการใดๆ จะทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกแล้ว เพราะหากทำหน้าที่ ส.ส.ขัดกับมติวิปรัฐบาล ก็อาจจะมีผลกระทบต่อสถานะความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและกระทบต่อจุดยืนของตนเองได้” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจาก ส.ส.ของพรรค 6 คน ไม่โหวตเสียงตามมติวิปรัฐบาลนั้น ว่าน่าจะเป็นเพียงการปล่อยข่าวโยนหินถามทาง หรือสร้างกระแสกดดันมากกว่า เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมืองที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าจะเข้าร่วมหรือออกจากการร่วมรัฐบาลก็ต้องออกไปทั้งพรรค จะปรับออกบางส่วนให้ร่วมรัฐบาลบางส่วนของพรรคเดียวกัน ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นพรรคการเมืองใดเข้าร่วมรัฐบาลเพียงครึ่งพรรค ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นพรรคการเมืองนั้นก็จะแตกออกเป็นสองส่วน และเปลี่ยนแปลงเป็นพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาสองพรรคอย่างแน่นอน

Advertisement

“เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายไม่ควรทำให้วัฒนธรรมทางการเมืองเสียหาย อยากให้เล่นการเมืองภายในกรอบหรือกติกา วัฒนธรรมประเพณีทางการเมืองที่เคยปฏิบัติกันมา ไม่ควรเอาเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากลมาช่วงชิงความได้เปรียบและเสียเปรียบทางการเมืองต่อพรรคการเมืองอื่นๆ เพียงเพื่อให้พรรคตัวเองอยู่ในอำนาจให้ยาวนานที่สุด” นายเทพไทกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image