ประชุมสภาฯ – เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ในการประะชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อพิจารณากระทู้ถามสด ของนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎรถาม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ต่อกรณีการปฏิบัติงานกรณีการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า กรณีที่คณะกรรมการมีมติเมื่อ 27 พฤศจิกายน ให้ยกเลิกการห้ามใช้ไกลโฟเซต และเลื่อนการห้ามใช้พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ไป 6 เดือนจากเดิมที่มีมติห้ามใช้ 1 ธันวาคม 2562
“ซึ่งการกลับมติดังกล่าว คณะกรรมการยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการ ด้วยการเปลี่ยนองค์ประกอบ โดยตัดสายกระทรวงสาธารณสุขไป คาดว่าจะมีการฟ้องร้องหาข้อยุติต่อไป จึงถูกสังคมกังขา จับพิรุธว่า การเลื่อนห้ามใช้ 2 สารพิษ เพื่อเอื้อล้างสต๊อกให้นายทุนที่มีสินค้าคงค้างหรือไม่ เพราะนี่ถือเป็นการยื้อเวลาอาบยาพิษให้ประชาชน อีกทั้งยังพบการแทรกแซงการทำงานในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงขอให้พิจารณาเสนอให้ทบทวนมติกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อ 27 พฤศจิกายนด้วย” นายชวลิตกล่าว
ด้านนายเฉลิมชัยกล่าวชี้แจงว่า ยืนยันว่าการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ ฐานะหน่วยงานปฏิบัติ ต้องทำตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อ 27 พฤศจิกายน และยึดหลักการทำงานที่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ยืนยันไม่ละเลย การใช้สารเคมีที่ระบุว่าเป็นอันตรายตนมองว่าไม่เคยมี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ใช้ผิดประเภท หรือใช้มากเกินไป รวมถึงใช้ไม่ถูกวิธีจนทำให้เป็นปัญหาสะสม
“ส่วนการสั่งงานที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าแทรกแซงกรมวิชาการเกษตรประเด็นการหาสารทดแทนที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลนั้น ก็ไม่เป็นความจริง แต่การนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมกรรมการเป็นเพียงการเสนอข้อมูลทางวิชาการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าไม่มีใครใจดำให้ประชาชนเสี่ยงอันตราย ส่วนที่มีข่าวเรื่องผลประโยชน์นั้น ไม่มี 100% แม้แต่สตางค์เดียว ดังนั้น ขอให้มั่นใจ รัฐบาลทำไปตามกรอบนโยบาย และภายใต้กฎหมาย หลักการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม และไม่คิดว่า ใครจะใช้สิ่งนี้เก็บเกี่ยวหาประโยชน์บนชีวิตประชาชน ไม่เห็นแก่ประโยชน์กลุ่มทุนใด หากใครคิดแบบนี้ไม่ควรเป็นคนไทยต่อไป” นายเฉลิมชัยกล่าว
