หั่นงบศธ.-หน่วยงานสังกัด 1.45 พันล.แนะยุบร.ร.เล็กเป็นกรณี หวั่นกระทบเด็ก-ผู้ปกครอง

สภาฯ-เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านการศึกษาและกองทุนหมุนเวียนการศึกษา ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 แถลงข่าวถึงผลการประชุมว่า ทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณด้านการศึกษาและงบประมาณที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม รวมทั้งหมด 12 ครั้งโดยคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาค่าใช้จ่ายของหน่วยรับงบประมาณในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และหน่วยงานที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของอนุกรรมาธิการฯ จำนวน 102 หน่วยงาน เป็นจำนวนกว่า 264,548 ล้านบาท ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณจำนวน 52 หน่วยงาน รวมงบประมาณที่ปรับลดรวมกว่า 1,450 ล้านบาท

นายอัครเดช กล่าวว่า ส่วนหน่วยงานที่สำคัญที่ทางคณะอนุกมธ.ปรับลดสำคัญคือ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีการปรับลดงบที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เนื่องจากอำนาจหน้าที่มีความทับซ้อนกับสำนักงานเขตพื้นที่ของ สพฐ. อีกทั้งยังไม่มีแผนที่ชัดเจนของแผนความต้องการงบลงทุน

“อีกทั้ง ยังได้มีข้อสังเกตถึงนโยบายยุบโรงเรียนขนาดเล็ก โดยขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบเป็นกรณีๆไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนักเรียนและผู้ปกครอง และได้มีข้อเสนอให้โรงเรียนต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป ควรมีหลักสูตรการเรียนการสอนว่ายน้ำเพื่อเป็นการเสริมทักษะการว่ายน้ำและแก้ไขปัญหากรณีเด็กพลัดตกน้ำ นอกจากนี้ โรงเรียนที่มีความเป็นเลิศด้านการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควรจะเป็นโรงเรียนแม่ข่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมเทคนิคการเรียนการสอนให้แก่โรงเรียนในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการควรกำหนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันปัญหาการระบาดของยาเสพติด ในโรงเรียนและชุมชนด้วย” นายอัครเดช กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image