กมธ.ศึกษาแก้รธน.-เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 11 ธันวาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ตามที่ 213 ส.ส.ฝ่ายค้าน นำโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายเป็นไปอย่างกว้างขวาง สมาชิกส่วนใหญ่ ทั้งส.ส.ซีกรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน ต่างสนับสนุนให้มีการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 คณะนี้ โดยเห็นว่า มีบทบัญญัติที่เป็นปัญหาในหลายส่วน อาทิ ระบบเลือกตั้งจัดสรรปั่นส่วนผสม ที่ได้สร้างปัญหามากมายจนต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในหลายประเด็น โดยเฉพาะการคิดคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มาของ 250 วุฒิสภาในบทเฉพาะกาล ซึ่งถือเป็นทายาทคสช. และที่สำคัญยังมีอำนาจในการโหวตเลือกตั้งนายกฯตลอด 5 ปีแรกนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ หรือได้สิทธิโหวตอย่างน้อยถึง 2 ครั้ง รวมไปถึงหมวดว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แม้จะเปิดช่องให้แก้ไขได้ แต่ถือว่า เป็นบทบัญญัติที่ปฏิบัติยาก หรือแก้ไขไม่ได้เลย ซึ่งสมาชิกต่างชี้ว่า อาจจะเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง จนกระทั่งมีการฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่ต่างกับฉบับที่ผ่านมา เป็นต้น
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง นายชำนาญ จันทร์เรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.)ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า “ไม่แน่ใจว่า การอภิปรายในครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของผม เพราะพรรคอนาคตใหม่ อาจจะถูกยุบด้วยเหตุอันเป็นผลพวงของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบันนี้หรือไม่ จึงสามารถกล่าวได้ว่า เราจำเป็นต้องศึกษาวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง” อย่างไรก็ตาม การอภิปรายดำเนินไปอย่างเรียบร้อย จนกระทั่ง นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งสมาชิกถึงกำหนดการเข้าเฝ้าฯรับเสร็จในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ก่อนที่จะสั่งปิดประชุมทันทีใน เวลา 21.00 น.และนัดประชุมพิจารณาในญัตติดังกล่าวต่อไปในสัปดาห์วันพุธที่ 18 ธันวาคมนี้
