หม่อมเต่า เผย หมอวรงค์ จัดเวทีต้าน ‘ลัทธิชังชาติ’ ประสงค์แจงนโยบาย-อุดมการณ์ เชื่อ ไม่เผชิญหน้ากลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ยัน เป็นพรรคฝ่ายขวา ต้องช่วยคนจน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวกรณีที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงการจัดเวทีปราศรัยให้ข้อมูลประชาชนเรื่อง อุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง ซึ่งมีเนื้อหาหลักคือ “ต่อต้านลัทธิชังชาติ” ว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการชี้แจงนโยบายและอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งเวทีแรกจัดที่โรงแรมวังแก้ว จ.พิษณุโลก ใน 13 ธันวาคมนี้ และจะมีการจัดปราศรัยขึ้นทั่งประเทศประมาณ 5-6 เวที โดยใช้เงินจากกองทุนพัฒนาการเมืองในส่วนของพรรคที่ยังเหลือมาดำเนินการ เพราะต้องใช้ให้หมดก่อนสิ้นปีนี้
“เราเป็นพรรคฝ่ายขวา เมื่อหมอวรงค์เข้ามาและดำเนินกิจกรรมก็เน้นไปตามแนวทางของท่าน เขาว่ามาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น คุณกำนันเขามาอย่างนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะเข้าไปเปลี่ยน มาทางไหนก็ไปทางนั้น เราก็อธิบายกันไปว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร แม้จะเป็นพรรคฝ่ายขวา ก็ต้องช่วยคนจนและอาจต้องช่วยมากกว่าคนจนกันเอง ต้องหาคะแนนคนจน เพราะคนรวยมีน้อยซึ่งในเมืองไทยรู้กันดี ทั้งนี้เวลาเลือกตั้งไม่มีใครรู้ว่าลงคะแนนอะไร กาเบอร์อะไร เมื่อก่อนทหารลงมาก็อาจจะสั่งได้หน่อย เพราะก่อนเลือกตั้งอาจจะเก็บไปขังในค่ายสัก 6 อาทิตย์ ไม่ให้รู้เรื่อง แต่พอเข้าตู้ก็ไม่รู้ว่ากาอะไร เพราะการเลือกตั้งของเราเสรีอย่างแท้จริง ใครจะเชื่อจะรักจะชอบอย่างไร เวลาเข้าตู้ก็เลือกอย่างนั้น เราไม่มีทางรู้ แต่ถ้าเราไม่มีนโยบายไปช่วยคนที่มีรายได้น้อย ไม่มีทางไปทำอะไรได้” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กิจกรรมดังกล่าวจะเน้นเรื่องของนโยบายพรรคเป็นหลักใช่หรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้มีกลุ่มการเมืองอื่นที่เห็นตรงข้ามกับพรรค รปช.จัดกิจกรรม จะเกิดการเผชิญหน้ากันหรือไม่ รมว.แรงงาน กล่าวว่า คงไม่ เพราะถ้าไม่ได้ไปเห็นหน้ากัน ก็เผชิญกันไม่ได้และเราไม่มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า การจัดกิจกรรมของ นพ.วรงค์ ที่ทำเพื่อจุดประสงค์ต่อต้านกลุ่มที่ชังชาติ จะทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายของประชาชนหรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า พรรคเรามีคนหลากหลาย เช่น นักวิชาการ และคนไทยก็รักชาติด้วยกันทั้งนั้น เราก็พูดในส่วนที่เรามีความเห็น แต่สุดท้ายแล้วประชาชนเขาจะไปเลือกเอง
