ยังไม่สาย! ‘ส.ว.เสรี’ แนะเลิกม็อบสกายวอล์ก ก่อนปัญหาสะท้อนเข้าตัว ‘ธนาธร’

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

ขอเสนอให้ยกเลิกการชุมนุมที่ สกายวอล์ก

เรื่องของนายธนาธร ที่นัดชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ก ทางเดินเชื่อมต่อที่สี่แยกปทุมวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป และจะยุติการชุมนุมทันที ในเวลา 18.00 น.

มันเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่ดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยอาศัยพื้นที่ สถานที่ ที่มีประชาชนคนจำนวนเดินทางมาที่สกายวอล์ก ในช่วงเย็น เพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือไปตามห้างต่างๆ ในย่านนั้น โดยใช้บริการรถไฟฟ้าและรถยนต์ในย่านนั้นอยู่แล้ว

Advertisement

ซึ่งถึงแม้จะใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ตาม แต่มันทำให้เกิดภาพดูเหมือนมีคนมาร่วมชุมนุมตามที่เชิญชวนจำนวนมาก ซึ่งหากทำอย่างนี้หลายๆ ครั้ง ก็มีโอกาสจะดึงดูดคนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมในคราวต่อๆ ไปหรือกิจกรรมอื่นที่จะทำต่อไป

เชื่อได้ว่าต้องการพยายามสร้างมวลชนให้เหมือนฮ่องกง ที่ต่อไปจะควบคุมไม่อยู่และจะบานปลายออกไป ซึ่งหวังว่าคงไม่บานปลายออกไปเช่นนั้น

แต่มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะคนฮ่องกงต่อสู้ในเรื่องการประท้วงต่อต้านร่างรัฐบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดนฮ่องกง พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นประโยชน์ได้เสียของคนในประเทศ

แต่การเรียกมวลชนของนายธนาธร เป็นเรื่องเรียกเชิญชวนประชาชนมารวมตัวเพื่อปกป้องในเรื่องส่วนตัวหรือพรรคของตัวเอง

การตั้งใจเข้าร่วมชุมนุม ประชาชนคนไทย จึงต้องมีสติ ไตร่ตรองให้ดี

แต่อย่าลืม! อย่าไปทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

มิฉะนั้น หากไปทำผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีอีก ก็จะไปโทษว่าถูกกลั่นแกล้งอีก เว้นแต่ว่าจะตั้งใจให้ถูกดำเนินคดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ที่ผ่านมาบ้านเมืองไทยก็มีความยุ่งยากมากอยู่แล้ว

เหตุการณ์ที่ผ่านมาจากการชุมนุมของคนไทยที่แบ่งฝ่าย ออกมาต่อสู้กันเอง เป็นบทเรียนที่คนไทยใช้ชีวิตที่เจ็บปวด ทรมานอย่างแสนสาหัส มายาวนานนับสิบปี

ในเรื่องของนายธนาธรหรือเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ ก็หวังด้วยว่าจะไม่ทำให้คนไทยแตกแยก วุ่นวาย ต่อสู้กันเองเหมือนที่ผ่านมา และก็ไม่ควรจะทำให้ประชาชนและลูกหลานเราใช้ชีวิตที่ยุ่งเหยิง วุ่นวายเหมือนฮ่องกงหรือเหมือนกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่ผ่านมา ก็ไม่ควรให้เป็นอย่างนั้น

สิ่งสำคัญ คือ การกระทำของนายธนาธรและของพรรคอนาคตใหม่ที่เกิดขึ้นจนถูกกระบวนการการตรวจสอบ พิจารณา และตัดสิน เป็นเรื่องที่ทำตัวเองมาทั้งสิ้น

ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นวันเริ่มต้นของความวุ่นวายในประเทศ หรือเป็นเพียงปรากฏการณ์เล็กๆ ของนักการเมืองคนหนึ่งที่กระทำการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายที่ควบคุมนักการเมืองในเรื่องของการใช้เงินของนักการเมืองหรือของพรรคการเมืองเท่านั้น

ต้องเข้าใจว่า นักการเมืองทุกคนอาจล้มหายตายจากไป แต่ประเทศไทยและลูกหลานไทย คงต้องอยู่และเจริญเติมโตต่อไป

ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในการประคับประคองให้บ้านเมืองไทยเดินไปข้างหน้าต่อไป ด้วยการรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินและความผาสุกของประชาชนคนไทยเป็นที่ตั้ง

หากนายธนาธรต้องการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็ควรยกเลิกการชุมนุมที่สกายวอล์กเสีย อย่าให้บานปลายออกไป จนกลายเป็นปัญหาที่สะท้อนกลับเข้าหานายธนาธรเอง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image