‘เทพไท’ ไม่เห็นด้วย ‘ธนาธร’ เคลื่อนไหวนอกสภา อาจทำให้ความขัดแย้งรุนแรงรอบใหม่

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศนัดชุมนุมทางการเมือง ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน ว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวนอกสภาของพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่านายธราธรจะถูกตัดสิทธิออกจากการเป็น ส.ส.แล้วก็ตาม แต่ยังคงสถานะความเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อยู่ และยังมี ส.ส.ในสังกัดของพรรคอีก 80 คน น่าจะใช้การเคลื่อนไหวการเมืองในสภาก่อน จะเหมาะสมกว่าการเคลื่อนไหวนอกสภา

เพราะการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภา อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายในสังคมไม่ต้องการ เพราะสังคมไทยควรจะก้าวผ่านความขัดแย้ง และการชุมนุมของกลุ่มเสื้อสีต่างๆ ได้แล้ว เราเคยมีบทเรียนและประสบการณ์การเคลื่อนไหวบนท้องถนนมา ตั้งแต่ม็อบเสื้อเหลือง ม็อบเสื้อแดง ม็อบหลากสี หรือม็อบนกหวีด จนถึงวันนี้สังคมก็คงไม่อยากเห็นม็อบเสื้อสีส้มอีกครั้ง

“ทุกคนในสังคมอยากจะก้าวข้ามความขัดแย้งเพราะความขัดแย้งในสังคมทำให้สังคมไทยเสียโอกาส จมปลักอยู่กับความขัดแย้งเดิมๆ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้ว เป็นการทำลายโอกาสของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งมีผลกระทบต่อคนไทยทุกคนและสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล วันนี้อย่าปล่อยให้ใคร หรือกลุ่มการเมืองใด จับเอาประเทศไทยเป็นตัวประกันทางการเมืองต่อไปอีกเลย” นายเทพไทกล่าว

Advertisement

นายเทพไทกล่าวด้วยว่า อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันถอดสลักความขัดแย้งทางการเมืองออกไป ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยออกมาเตือนให้ระวังความขัดแย้งรอบใหม่จะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และวันนี้ได้เป็นจริงตามที่ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ ซึ่งความขัดแย้งรอบใหม่นี้ เกิดขึ้นจากปัจจัย 2 ประการคือ 1.เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญปี 60 ในประเด็นของที่มาในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาล

และ 2.เกิดขึ้นจากตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เปลี่ยนสถานะตัวเองจากคนกลาง มาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ด้วยปัจจัย 2 ข้อนี้ อาจนำไปสู่การขัดแย้งในสังคมรอบใหม่ได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถอดสลักความขัดแย้งออกไปก่อน ด้วยการเร่งผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และในตอนนี้ญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาอีกด้วย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image