สถานีคิดเลขที่ 12 : ความเชื่อและปาฏิหาริย์ : สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

แฟลชม็อบจะสว่างแวบเดียวแล้วหายไป หรือจะเป็นประกายไฟ ขยายวง ลุกโพลงไปที่โน่นที่นี่
เป็นสิ่งที่ท้าทายพรรคอนาคตใหม่อย่างยิ่ง

เพราะสิ่งที่ พรรคอนาคตใหม่ เผชิญแรงเฉื่อย แก้ไม่ตกอยู่ตอนนี้

คือความเชื่อ หรือ “ถูกทำให้เชื่อ” ว่า เมื่อคดีกู้เงิน 191 ล้าน ขึ้นไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

พรรคอนาคตใหม่จะเผชิญชะตากรรมเช่นเดิม คือ แพ้

Advertisement

แถมครั้งนี้อาจจะเป็นการแพ้ครั้งสุดท้าย

เพราะพรรคมีโอกาสถูกยุบ กรรมการบริหารจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง

คงไม่ต้องอธิบายหรือถกเถียง ว่าทำไมคนถึงเชื่อมี ใบสั่ง หรือไม่มี

Advertisement

เพราะทุกคนดูจะเข้าใจตรงกันแล้ว

และที่สำคัญมีคนต้องการให้ “เชื่อ” เช่นนั้นด้วย

เพราะเมื่อเชื่อเสียแล้ว อาจทำให้คนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ “ถอดใจ” ยอมรับชะตากรรม

ที่คิดจะสู้ ก็ลดน้อยถอยลง

ในเชิงจิตวิทยาเขาบอกว่า เป็นการฝังหัวให้ยอมจำนน ไม่ให้หือไม่ให้อือ

จงยอมรับชะตากรรมเสียดีๆ เพราะมันถูกกำหนดให้เป็นเช่นนั้นแล้ว

นี่เป็นปมที่พรรคอนาคตใหม่ และฝ่ายสนับสนุนจะต้องเร่งปลดเปลื้องความเชื่อนี้ให้ได้

สมาชิกพรรคจะได้แน่วแน่ในการหาหนทางสู้

มากกว่าที่จะคิดว่าย้ายไปอยู่พรรคไหนดี

แต่ยอมรับว่าการจะลดความเชื่อแพ้แน่ๆ เป็นเรื่องยาก ถึงยากอย่างยิ่ง

เพราะมันมีการปูพื้น มีการต่อเชื่อมเรื่อง ให้ “จินตนาการ” ไปไกลเสียแล้ว

ซึ่งตอนนี้ ก็เริ่มมีการพูดกันว่า นอกจากจะทำให้พรรคอนาคตใหม่แพ้แล้ว

ยังแพ้โดย “เร็ว” ด้วย

มีการชี้ชวน ให้สังเกต “มติ” ของที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา

วุฒิสภามีมติเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชุดใหม่ จำนวน 5 คน ขยายเวลาการพิจารณาครั้งที่ 3 ออกไปอีก 30 วัน จากเดิมที่จะครบกำหนด 15 ธันวาคมนี้ ด้วยมติ 163 เสียง

ซึ่งกว่าจะให้ที่ประชุมลงมติ ทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง อย่างเร็วก็น่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม หรือไตรมาสแรกของปี 2562 นั่นกระมังจึงจะได้ ป.ป.ช.ใหม่ 5 คน มาทำหน้าที่

ทำให้โอกาสที่คดีเงินกู้ 191 ล้าน จะอยู่ในการวินิจฉัยของกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเก่า สูงมาก

เมื่อเป็นเช่นนั้นแนวโน้มและทิศทางการวินิจฉัยของคดีที่ผ่านมา คงออกไปในทางเดิม

และตอนนี้ “คดีเงินกู้ 191 ล้าน” เร่งถูกตั้งแท่นและเร่งเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ขนาดว่า อาทิตย์หน้าอาจมีการพิจารณาเรื่องนี้เลย

หรือช้าสุดก็ไม่น่าพ้นเดือนมกราคม 2563

หากเป็นเช่นนั้น ฟากรัฐบาล คงเหมือนได้ของขวัญปีใหม่

เพราะถ้าการวินิจฉัยอยู่ในกระบวนการเดิม

และสมมุติ ผลการวินิจฉัยออกมาก่อนญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านบอกจะยื่นหลังจากปีใหม่ผ่านไปแล้ว

เกิด มีคนดึงให้ช้าออกไปถึงกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม รอให้ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาก่อน

ซึ่งหากผลออกมาตามความเชื่อ

ฝ่ายค้านและพรรคอนาคตใหม่ คงระส่ำระสายน่าดู

ตรงกันข้ามกับรัฐบาล ซึ่งเดิมควรจะเหน็ดเหนื่อยหากล้วยมาเลี้ยงลิง

ก็จะกลายเป็นลิง วิ่งมาขอกล้วยเสียเอง

ถือเป็นการถูกหวย หลายเด้ง

เป็นความเฮง ที่อย่าประมาทว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้

ความเชื่อ ประสานกับปาฏิหาริย์ ทำให้อะไรก็เกิดขึ้นได้ในบ้านเมืองนี้

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image