วันเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถึงบรรยากาศทางการเมืองของไทยว่ากำลังเขม็งเกลียวตึงเครียดขึ้นในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะมีการลงประชามติว่าด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยผู้นำรัฐบาลทหารและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร ซึ่งให้การสนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่างฝ่ายต่างพากันเข้าหาองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อบอกเล่าถึงข้อเท็จจริงในมุมของตนเอง โดยรอยเตอร์อ้างการเปิดเผยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวว่าตนได้โทรศัพท์หานายบัน คี มุน เลขาธิการยูเอ็น เพื่อแสดงความกังวลต่อแรงกดดันทางการเมืองที่มีเพิ่มขึ้น โดยรอยเตอร์รายงานว่าการต่อสายพูดคุยกับเลขาธิการยูเอ็นของพล.อ.ประยุทธ์ มีขึ้น 1 วันหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของกลุ่มนปช.ขณะที่กลุ่ม นปช.นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ เปิดเผยว่า ได้ไปยังสำนักงานยูเอ็นประจำกรุงเทพฯ โดยทางกลุ่ม นปช.อยากให้ทางยูเอ็นเข้ามาและสอดส่องการลงประชามติครั้งนี้ โดยกลุ่ม นปช.ยังชี้ว่าศูนย์ปราบโกงประชามติเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโกง
รอยเตอร์ระบุอีกว่า ไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของหน่วยงานยูเอ็นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรัฐภาคีสมาชิกยูเอ็นบางประเทศได้แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ลงของไทยนับจากรัฐบาลทหารเข้ามายึดอำนาจ
