กมธ.-เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 18 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายเอกวัฒน์ พิมพ์สวรรค์ ผู้ประสานงานนักกิจกรรมและองค์กรความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อนางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นข้อเสนอของภาคประชาสังคมเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อการคุ้มครองการสมรสในครอบครัวเพศหลากหลาย
นายเอกวัฒน์ กล่าวว่า สังคมไทยมีคู่ชีวิตเพศเดียวกันและคนข้ามเพศจำนวนมากที่ใช้ชีวิตร่วมกันเช่นคู่รักชายหญิงทั่วไป แต่สถานภาพของคู่ชีวิตเพศเดียวกันและคนข้ามเพศไม่มีกฎหมายรับรอง ทำให้บุคคลดังกล่าวไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งในเรื่องสิทธิและหน้าที่ที่พึ่งได้ ภาคประชาสังคมเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และได้ขับเคลื่อนเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อหาทางออกที่เกิดประโยชน์แก่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมากที่สุด ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีหน้าที่ปกป้องสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ จึงขอเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาตั้งคณะทำงานเพื่อเสนอแก้ไขกฎหมายผ่านกระบวนการนิติบัญญัติต่อไป
ด้านนางมุกดา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่ของสังคม คณะกรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม และพร้อมดูแลกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ เพื่อให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกันในสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว ได้มีตัวแทนกลุ่มซึ่งเป็นชาย 2 คน ได้กอดจูบกันเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การแสดงออกดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ เพราะเป็นการแสดงออกภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ
ต่อมาเมื่อเวลา 14.45 น. นายแทนคุณ จิตอิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการใช้ห้องแถลงข่าว พ.ศ.2551 ว่า บุคคลที่มีสิทธิ์ใช้ห้องแถลงข่าวคือ ประธาน และรองประธานสภาฯ ประธาน และรองประธานวุฒิสภาฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ สมาชิกรัฐสภา คณะกรรมาธิการ เลขาธิการสภาฯ เลขาธิการวุฒิสภาฯ และข้าราชการ อดีตสมาชิกรัฐสภา บุคคลหรือคณะบุคคลที่สมาชิกรัฐสภารับรอง ส่วนบุคคลหรือคณะบุคคลที่ประสงค์จะใช้ห้องแถลงข่าว ให้ยื่นขออนุญาติก่อน นอกจากนี้ การแถลงข่าวต้องใช้กิริยา วาจาที่สุภาพ และรักษามารยาทให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าว ไม่ได้เป็นการปิดกั้นสิทธิ และเสรีภาพ แต่บางเนื้อหาของภาพ หรือข่าว ที่ถูกเผยแพร่ และปรากฏสัญลักษณ์ของรัฐสภาจะเป็นผลลบต่อรัฐสภาเอง