‘ไทกร’ ฟันธง ปีหน้าวิกฤตการเมืองหนัก อนุทินประคองตัวดีๆ ได้นั่งนายกฯคนต่อไปแน่

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็น เรื่องว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ระบุว่า นายอนุทินหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วางตัวและวางเกมเพื่อก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนประยุทธ์ในปีหน้า

ทุกคนรู้และคาดการณ์ได้ว่าปีหน้า 2563 จะเกิดอะไรขึ้น

(1) วิกฤตเศรษฐกิจจะส่งผลอย่างรุนแรง ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างหนัก

(2) วิกฤตการเมืองการชุมนุมต่อต้านขับไล่ประยุทธ์ลุกลามขยายตัว

Advertisement

เกิดความไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและไร้เสถียรภาพทางการเมืองในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็มีทางออกของเรื่องนี้เพียง 4 ทาง

(1) ประยุทธ์ดื้อด้านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
(2) ประยุทธ์ยุบสภา
(3) ประยุทธ์ลาออก
(4) เกิดการรัฐประหารขึ้น

พิจารณาเหตุปัจจัย 4 ทางออกข้างต้นดังนี้

Advertisement

(1) ประยุทธ์ดื้อด้านเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เป็นเพียงแทคติคซื้อเวลาเพื่อรอจังหวะ รอโอกาส พลิกสถานการณ์ให้ตนเองกลับมาได้เปรียบ ได้รับการยอมรับจากประชาชนอีกครั้ง ซึ่งความเป็นจริง สถานการณ์มันเลยไปแล้ว แทบไม่มีโอกาสที่ประยุทธ์จะพลิกสถานการณ์ได้ ยิ่งนานวันประยุทธ์มีแต่จะพาเครือข่ายทั้งหมดแพ้อย่างราบคาบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

(2) ประยุทธ์ยุบสภา คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้นที่ยุบสภาในขณะที่รัฐบาลกระแสตกต่ำติดดินอย่างนี้ เพราะมันคือการฆาตกรรมหมู่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด

(3) ประยุทธ์ลาออก ซึ่งเป็นทางเดียวที่เครือข่ายรัฐบาลปัจจุบันจะรักษาอำนาจและพลิกสถานการณ์ เรียกความเชื่อมั่นกลับมาใหม่ได้ โดยยุทธวิธีเปลี่ยนหัวหน้ารัฐบาลใหม่ แต่โครงสร้างรัฐบาลยังเหมือนเดิม

(4) เกิดการรัฐประหารขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกที่เสี่ยงที่สุด เพราะไร้ความชอบธรรม ไม่มีความชอบธรรมใดๆในการรัฐประหาร ประชาชนต่อต้านทั่วประเทศ สถานการณ์ยิ่งจะลุกลามกลายเป็น มิคสัญญี

นายอนุทินและกุนซือของเขา ย่อมมองสถานการณ์ออกเช่นกัน จึงเดินหมากเพื่อเข้าฮอส เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแทนประยุทธ์ โดย

(1) สร้างให้ตนเองได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเครือข่าย คสช. เพื่อจะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. 250 เสียง

(2) ฉวยโอกาสที่พรรคอนาคตใหม่ขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค ดึง ส.ส. เหล่านี้เข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ภูมิใจไทยมี ส.ส. มากกว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคอันดับ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตามรัฐธรรมนูญนายอนุทินมีคู่แข่งสำคัญคือ นายอภิสิทธิ์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากประชาธิปัตย์ ยิ่งประชาธิปัตย์เกิดความขัดแย้งภายในเช่นนี้ โอกาสจึงเป็นของนายอนุทิน

เมื่อทำได้ตามนี้ นายอนุทินเพียงแค่ประคองตัวและรอเวลา รอลูกบอลการเมืองไหลมาที่เท้าตนเองเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image