เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับจดทะเบียนจัดพรรคพปชร. เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพปชร. เข้าร่วมการประชุมเป็นครั้งแรก ซึ่งมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นประธานประชุม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค โดยมีแกนนำพรรค ตัวแทนสาขาพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้เป็นที่สังเกตว่านายสุริยะ ได้เดินทางมาร่วมประชุมโดยรถพยาบาล พร้อมนั่งรถเข็นวีลแชร์ ภายหลังเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บภายหลังจากปฏิบัติหน้าที่ จ.ชัยภูมิ และเกิดอาการบาดเจ็บที่หลัง เพราะเกิดแรงกระแทกอย่างแรงระหว่างเดินทาง ซึ่งต่อมาแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และไปซ้ำกับอาการบาดเจ็บบริเวณเดิม ก่อนให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมสั่งห้ามนั่งตรงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยการเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ นายสุริยะ ได้ขออนุญาตแพทย์ออกจากโรงพยาบาลชั่วคราว เพื่อมาร่วมประชุมครั้งสำคัญทั้งนี้ บรรดาแกนนำพรรค และส.ส.พรรค เมื่อทราบข่าว ต่างทยอยเข้ามาสอบถามอาการด้วยความห่วงใย พร้อมขอให้อาการหายในเร็ววัน
นายสุริยะ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตอนนี้อากาดีขึ้นแล้ว แต่ต้องทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงทำกายภาพบำบัดและต้องใส่อุปกรณ์พยุงหลังไว้สักระยะหนึ่ง ส่วนจะสามารถเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมครม.นัดสุดท้ายของปีนั้น ต้องปรึกษาแพทย์ดูอาการอีกครั้ง แต่วันนี้ถึงอย่างไรก็ต้องออกมาเพื่อร่วมประชุมพรรค
เมื่อถามว่าการเพิ่มจำนวนกก.บห.จะทำให้การทำงานกของซีกรัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้นหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า แน่นอน เพราะหลายคนจะเข้ามาช่วยแสดงความรู้ความสามารถ ผนึกกำลังในการขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกัน ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่า กก.บห.ชุดนี้ถือว่าเป็นตัวจริงแล้วใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า “ถูกต้อง ถูกต้องเลยครับ” และว่า ในการเลือกกก.บห.วันนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เพื่อให้การทำงานในส่วนของพรรคเกิดความต่อเนื่องต่อไป
“หัวหน้ากับเลขาธิการพรรค คงไม่เปลี่ยน เพราะเราอยากให้เกิดความต่อเนื่อง จริงๆ ตอนเลือกตั้งเข้ามา ก็มีแกนนำหลายคนได้ช่วยเหลือกันทำให้พรรคเกิดขึ้น โดยเฉพาะนายอนุชา นาคาศัย ก็ทุ่มเทให้กับพรรค แต่ปรากฎว่า ท่านก็ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีตามที่ช่วยเหลือกัน แต่อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกเป็นประกาศิตมาแล้วให้ ท่านสนธิรัตน์ เป็นเลขาฯต่อไป ซึ่งท่านอนุชาก็เห็นด้วย” นายสุริยะ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การประชุมในวันเดียวกันนี้ จะเป็นการพูดคุยถึงการทำงานของพรรคตลอดรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงจะมีการเลือกตั้งกก.บห.เพิ่มเติมที่จะมีทั้งการปรับออกและปรับเพิ่ม โดยเพิ่มกก.บห.แต่ละภาคให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมจะมีการแต่งตั้งส.ส.และรัฐมนตรีบางคน เข้ามาเป็นกก.บห.เพิ่มเติม ส่วนตำแหน่งอื่นไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมมีคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จำนวน 22 คน สมาชิกพรรค จำนวน 432 คน รวมผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น 454 คน โดยในการประชุมมีวาระสำคัญคือ การเสนอชื่อสมาชิกพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรค เพิ่มเติมอีก 16 คนและ 1 คนทดแทนผู้ที่ลาออกไปจากกรรมการฯ ชุดเดิม โดยการการลงคะแนนไม่ได้ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมสังเกตการณ์ เนื่องจากต้องลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับการประชุม
สำหรับรายชื่อกก.บห.ตั้งเพิ่มใหม่ จำนวน 17 คน ประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายสุพล ฟองงาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นางประภาพร อัศวเหม นายนิโรจน์ สุนทรเลขา นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นายสกลธี ภัททิยกุล นายไผ่ ลิกค์ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ นายสุรชาติ ศรีบุศกร และนายนิพันธ์ ศิริธร
