ปชป. ร้าวลึก “วิลาศ” ยัวะ ถามหน.-เลขาฯ-ปธ.วิปพรรค รับคำสั่งใครเปลี่ยนมติพรรค ตั้งคนนั่งกมธ.ปราบโกง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสนอชื่อตน ทั้งที่ในการประชุมส.ส.ของพรรค เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา พรรคมีมติเสนอชื่อตน เป็นกมธ.ชุดนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนี้มาตลอด เพราะตนไม่มั่นใจในเรื่องความรับผิดชอบในการทำงานและความบริสุทธิ์ที่เคยพูดไว้กับประชาชน จึงขออยู่วงนอกเพื่อตรวจสอบทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์เองอย่างอิสระ แต่ผู้ใหญ่ และส.ส.ในพรรค ยืนยันให้ตนทำหน้าที่นี้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้ที่ติดตามตรวจสอบมาตั้งแต่ต้น ตนจึงไม่ได้ปฏิเสธ

“แต่หลังจากพรรคได้ประชุมแชะมีมติในที่ประชุมแล้ว ต่อมาในงานเลี้ยงส.ส.ของพรรคค่ำวันเดียวกัน ไม่รู้ว่าโจรตัวไหนสาดโคลนหรือสาดน้ำมนต์ให้เปลี่ยนตัวผม ซึ่งมีคนทักท้วงแล้วว่าเปลี่ยนไม่ได้ เพราะพรรคมีมติแล้ว จึงระบุว่าให้นายสุทัศน์ เงินหมื่น ที่เป็นผู้เสนอชื่อผม ถอนชื่อผมออก แต่สุดท้ายนายสุทัศน์ ก็ยอมถอนโดยไม่ได้นำเรื่องนี้กลับเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อเปลี่ยนแปลงมติ จึงถือเป็นการกระทำที่ขัดข้อบังคับพรรค เพราะก่อนหน้านี้มีกรณีการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และประธานวิปของพรรคออกมาแถลงว่าห้ามฝ่าฝืนข้อบังคับและมติพรรค ถ้าใครฝ่าฝืน จะมีความผิด แต่ตอนนี้กลับมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามมติพรรค จึงอยากถามว่าจะทำอย่างไร และอยากรู้ว่า 3 คนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงมติพรรคโดยพลการหรือไม่”นายวิลาศ กล่าวและว่า

เงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล พรรคได้ประกาศชัดเจน 3 ข้อ คือ 1.ต้องรับนโยบายของพรรคเรื่องประกันรายได้เกษตรกร 2.ต้องตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.หากมีการทุจริต พรรคจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที ซึ่งวันนี้เรายังไม่รู้ว่ามีการทุจริตหรือไม่ แต่มีการตั้งกมธ.มาตรวจสอบ ตนจึงอยากรู้ว่าเพราะอะไรต้องเปลี่ยนตนออกจากกมธ.ชุดนี้ แสดงว่าสิ่งที่ตนเคยพูดไว้ว่าไม่ไว้ใจเริ่มเป็นจริงแล้วใช่หรือไม่ เพราะตนยืนยันมาตลอดว่าจะตรวจสอบแบบไม่มีมวยล้มต้มคนดู นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ตนแถลงข่าวการคัดค้านการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐแห่งใหม่ ครั้งที่ 4 เพราะส่อทุจริต จากนั้น หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งออกมาระบุว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งไลน์มาแจ้งว่าด่าลูกพรรคแล้ว และบอกว่าประธานสภาฯ โทรศัพท์มาบอกด้วยว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ แต่ภายหลัง ประธานสภาฯออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ ขณะที่คนพูดกลับไม่รับผิดชอบใดๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงว่าต้องมีคนโกหก ตนจึงมอยากเสนอสำหรับคนของพรรคที่ไปร่วมรัฐบาลให้ตั้งเงื่อนไขเป็นสัตยาบันอีก 1 ข้อ คือขอร่วมรัฐบาลตลอดไป

นายวิลาศ กล่าวต่อว่า จากนี้ไป ตนจะตรวจสอบแบบจริงจัง ที่เคยบอกในที่ประชุมพรรคว่าถ้าพบปัญหาการทุจริตหรือใครที่มีความไม่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี จะเอาออกมาพูด มีข่าวทุจริตที่ไหนก็จะตรวจสอบ ตนยืนยันว่าไม่เกรงกลัวใคร และเชื่อว่าไม่มีใครกล้ามากดดันตนไม่ให้เคลื่อนไหว และในขณะนี้ตนยังทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกพรรคมีคนดีและคนชั่ว จะโทษพรรคไม่ได้ เราต้องค่อยๆไล่คนชั่วออกไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image