จัดทัพรับ “หนาว” ถอดสลัก “ปฏิวัติซ้อน-เปลี่ยนผ่าน” “บิ๊กป้อม” แน่วแน่ “บิ๊กแกละ”

จัดทัพรับ “หนาว” ถอดสลัก “ปฏิวัติซ้อน-เปลี่ยนผ่าน” “บิ๊กป้อม” แน่วแน่ “บิ๊กแกละ” เดิมพันมิตรภาพ ตท.20 ทัพฟ้าหวั่นไหว “บิ๊กโป่ง” เสืออากาศข้ามห้วย

ท่าทีของ บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในระยะหลังๆ นี้ กำลังถูกตีความว่า ได้รับการส่งสัญญาณมาแล้วว่า ใครจะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่

เพราะจากที่คนใน ทบ. รู้กันดีว่า พล.อ.ธีรชัย ไม่ค่อยจะปลื้ม บิ๊กแกละ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก เท่าใดนัก ด้วยเหตุผลหลายประการ

แต่มาระยะนี้ พบว่า พล.อ.ธีรชัย ดูจะเป็นฝ่ายหลบหลีกทางให้ พล.อ.พิสิทธิ์ ได้แสดงบทบาทนำมากขึ้น ราวกับจะปลงตกแล้ว

อันรวมถึงการที่ บิ๊กหมู ขอลาไปสหรัฐอเมริกา เพื่อไปเยี่ยมลูกที่เรียนอยู่

Advertisement

ปล่อยให้ พล.อ.พิสิทธิ์ รับงานสำคัญแทน ทั้งการไปตรวจการฝึกของหน่วยทหารขนาดเล็ก (นทล.) ของแต่ละกองทัพภาค

รวมถึงการได้แสดงบทบาทเด่น เคียงข้าง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอนลงพื้นที่ราชบุรี เปิดโครงการขุดลอกคูคลองเฉลิมพระเกียรติ ที่ พล.อ.ธีรชัย จะเดินหลบ หลังจบหน้าที่ในพิธีเปิด โดยปล่อยให้เป็นงานของ พล.อ.พิสิทธิ์

เรียกได้ว่า พล.อ.พิสิทธิ์ เองก็ยังคงนิ่ง ราวกับมีความมั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าจะได้เป็น ผบ.ทบ.

Advertisement

จนเกิดประโยคที่เม้าธ์กันในกองทัพว่า งานนี้ไม่รู้ใครหลอกใคร หรือใครโดนใครหลอก

เพราะฝ่าย บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผช.ผบ.ทบ. ก็ยังคงดูมีความมั่นใจ โดยเฉพาะพลังของเตรียมทหารรุ่น 16 ที่มีทั้ง บิ๊กโชย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผช.ผบ.ทบ. และ บิ๊กจุก พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ รอง ผบ.สส. ที่เป็นหน้าห้องของ พล.อ.ประวิตร

อย่างไรก็ตาม ทหารในสายวงศ์เทวัญ ฟันธงกันแล้วว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ ต้องชื่อ พล.อ.พิสิทธิ์ (ตท.17) ที่เติบโตมาจากทั้งกองพลบูรพาพยัคฆ์ พล.ร.2 รอ. และกองทัพวงศ์เทวัญ พล.1 รอ.

ด้วยเพราะในสถานการณ์แบบนี้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องเลือก พล.อ.พิสิทธิ์ ที่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน อีกทั้งโตมาในสายกำลังรบของกองทัพภาคที่ 1 ที่รู้จักมักคุ้น รู้จักตัวตนและนิสัยของนายทหารระดับ ผบ.หน่วยคุมกำลัง เป็นอย่างดี

ยิ่งในสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และอาจจะมีการ “เปลี่ยนผ่านประเทศ” ในอีกไม่นานนี้แล้ว ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ถ้าทุกคนรู้อย่างที่ผมรู้แล้วจะหนาวขึ้นไปอีก”

จนเป็นที่มาของการประกาศว่า ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ คสช. จะอยู่ต่อ

ดังนั้น ก็จำเป็นที่รัฐบาล คสช. จะต้องมั่นใจแบบพันเปอร์เซ็นต์ ใน ผบ.ทบ.คนใหม่

ต้องมั่นใจว่าจะไม่เกิดการปฏิวัติซ้ำ หรือรัฐประหารซ้อน ให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์

ต้องมั่นใจด้วยว่า จะไม่เกิดการสร้างขั้วอำนาจขึ้นมาใหม่ หรือเป็นการฟื้นชีพขั้วอำนาจหมวกแดง หรือบ้านสี่เสาฯ มาต่อกรถ่วงดุลกับบูรพาพยัคฆ์

ท้ายที่สุด พล.อ.ประวิตร จะเป็นคนตัดสินใจ ชี้ชะตากองทัพ ชี้ชะตา คสช. และชี้ชะตาประเทศ จากการเลือก ผบ.ทบ.คนใหม่ คราวนี้เลยทีเดียว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณว่า “รักใครชอบใคร ก็เก็บไว้ในใจ ไม่จำเป็นต้องแสดงออก”

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ ซึ่งเป็น รมว.กลาโหม ได้สิทธิ์ในการเลือก ผบ.ทบ.คนใหม่

ที่ก็รู้กันดีว่า ตัวเลือกหนึ่งเดียวของ บิ๊กป้อม ก็คือ บิ๊กแกละ พล.อ.พิสิทธิ์ น้องที่เติบโตมาใน พล.ร.2 รอ. เป็นบูรพายัคฆ์มาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ

ส่วนนายกฯ ก็เสนอชื่อแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ ที่เชื่อกันว่า บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 1 น้องรักสายตรงของนายกฯ เป็นตัวเลือกที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังรบคนใหม่

จนวิจารณ์กันว่า เป็นสูตรการจัดทัพ วางตัวขุนพล ที่ “ขบ” กันไว้ เพื่อคานอำนาจระหว่างกัน ในยุคที่จะต้องเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน ทั้งทางการเมืองและเปลี่ยนผ่านประเทศ ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ

ที่สำคัญ ตอนนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.ท.อภิรัชต์ จะใกล้ชิดกับ พล.อ.พิสิทธิ์ มากขึ้น

แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีเหตุให้ต้องมี “ระยะห่าง” กันอยู่บ้างก็ตาม ทั้งด้วยเพราะเหตุที่ พล.อ.พิสิทธิ์ ถูกจัดให้เป็นขั้วสาย ฝ่าย บิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม จากการทำโครงการอุทยานราชภักดิ์

เพราะใน ทบ. รู้กันดีว่า ระหว่าง พล.อ.อุดมเดช กับ พล.ท.อภิรัชต์ ก็มีระยะห่าง แถมด้วยเพราะ พล.ท.อภิรัชต์ เป็นน้องรักของ บิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม อีกด้วย ความสัมพันธ์จึงไม่ค่อยราบรื่นนัก

แต่อย่างน้อยก็เป็นลูกหม้อ ร.11 รอ. มาด้วยกัน

แม้ว่าสายบูรพาพยัคฆ์ จะหนุนให้บิ๊กตู่ หรือบิ๊กกู้ พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องรักของบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ให้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ตาม

แต่ก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ต้องดูแล พล.ท.อภิรัชต์ น้องรักในสายวงศ์เทวัญคนนี้

แต่ขณะเดียวกัน หากให้ พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจเลือกแม่ทัพภาคที่ 1 ก็เชื่อว่า ตัวเลือกของเขามีแค่ พล.ต.กู้เกียรติ หรือ บิ๊กณัฐ พล.ท.ณัฐ อินทรเจริญ รอง เสธ.ทบ. ที่เป็นเสมือนลูกรักเท่านั้น

แต่ด้วยเพราะ พล.ท.ณัฐ อายุน้อยกว่าเพื่อน ตท.20 อย่าง พล.ต.กู้เกียรติ จึงทำให้ชื่อของ พล.ต.กู้เกียรติ เป็นตัวเลือกของ พล.อ.ประวิตร ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 คุมขุมกำลังปฏิวัติ

ตอนนี้ก็อยู่แค่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะปล่อยมือให้ พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจเลือกเองทั้งหมด หรือว่าจะมีส่วนในการเสนอชื่อด้วย

เพราะหากเป็นสูตรบิ๊กป้อม ก็ย่อมเลือก พล.อ.พิสิทธิ์ เป็น ผบ.ทบ. แล้วให้ พล.ต.กู้เกียรติ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1

เพราะถือว่าเป็นบูรพาพยัคฆ์ ยกกำลัง 2 แต่ด้วยความที่ พล.อ.พิสิทธิ์ โตมาจากสายวงศ์เทวัญ ด้วย เป็นทั้ง ผบ.พัน และผู้การกรม ใน ร.11 และเป็น ผบ.พล.1 รอ. มาแล้วด้วย จึงน่าจะ “เอาอยู่”

สําหรับ พล.อ.พิสิทธิ์ กับ พล.อ.เฉลิมชัย นั้น ดูบรรยากาศทั่วไปในกองทัพแล้ว การเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ด้วยกัน ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง

แต่ที่ต้องจับตามองคือ เพื่อนเตรียมทหาร 20 ทั้ง 3 คนที่ชิงเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 ทั้ง พล.ท.อภิรัชต์ พล.ท.ณัฐ และ พล.ต.กู้เกียรติ

แม้จะยังเห็นทั้ง 3 คนไปไหนมาไหนด้วยกัน พบปะพูดคุยกันตามปกติ แต่ก็ถูกจับตามองอย่างหนักเลยว่า ความเป็นเพื่อนจะจืดจางลงไปหรือไม่ แถมกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย อาจจะมีการเชียร์การแข่งกันในที แต่ไม่ได้ถึงขั้นขัดแย้ง

จึงไม่แปลกที่ตอนนี้ เวลาไปไหนมาไหน ทั้ง 3 คนจะแท็กทีมกันไป เพื่อให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวในฐานะเพื่อน แม้ว่าอาจจะมีแยกวงกันคุยบ้างก็ตาม

แต่ว่ากันว่า ร.1 รอ. เป็นค่ายทหารที่คึกคักที่สุด เพราะทั้งบ้านนายกฯ บ้าน พล.อ.ธีรชัย และโดยเฉพาะบ้านบิ๊กป้อม ก็อยู่ในรั้วนี้ และมีทั้งสีเขียว สีกากี ตบเท้ากันเข้าไปหา พล.อ.ประวิตร อยู่ตลอด

ด้วยเพราะในอีกไม่กี่อึดใจ การจัดโผโยกย้ายทหารปลายปี ครั้งใหญ่ ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

แต่กล่าวกันว่า โผนี้ หากเก้าอี้ ผบ.ทบ. ยังไม่ลงตัว ชัดเจน ก็ส่งผลต่อเก้าอี้อื่นๆ ด้วย

โดยเฉพาะเก้าอี้ปลัดกลาโหม และ รอง ผบ.สส. ที่เอาไว้รองรับคนที่อกหักจากเก้าอี้ ผบ.ทบ.

แม้แต่เก้าอี้แม่ทัพฟ้า ที่ดูเหมือนว่าจะไม่น่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่ง ผบ.ทบ. หรือตำแหน่งอื่นก็ตาม แต่ก็ยังคงต้องรอดูความชัดเจน

ด้วยเพราะเก้าอี้แม่ทัพฟ้า ที่ว่าแน่ๆ ว่า บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง เสนาธิการทหารอากาศ เป็นเต็งหนึ่ง

แต่กระแสข่าวในกลาโหม ใกล้ๆ ห้อง รมว.กลาโหม กลับสะพัดว่า อาจมี “เสืออากาศข้ามห้วย” กลับไปเสียบยอด

นั่นหมายถึง บิ๊กโป่ง พล.อ.อ.ศิวเกียรติ ชเยมะ รองปลัดกลาโหม ที่อาจจะข้ามไปนั่งเก้าอี้ ผบ.ทอ. ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณกันยายน 2560 หลังจากที่เมื่อโยกย้ายกันยายนปีที่แล้ว ถูกเตะจากเก้าอี้ ผช.ผบ.ทอ. มาเป็นรองปลัดกลาโหม

แถมดูบรรยากาศในกลาโหม ก็ดู พล.อ.อ.ศิวเกียรติ ดูมีออร่า จากจำนวนคนที่ห้อมล้อม

ด้วยเหตุที่มีความใกล้ชิด สนิทสนมกับบิ๊กป้อม รมว.กลาโหม แถมเป็นเพื่อนรัก ตท.16 ของ บิ๊กจุก พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ รอง ผบ.สส. น้องรักที่มาช่วยงานหน้าห้อง รมว.กลาโหม อีกด้วย

แต่ก็แน่นอนว่า พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. คนปัจจุบันที่จะเกษียณกันยายน 2559 นี้ จะเสนอชื่อ พล.อ.อ.จอม เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะได้วางตัวกันไว้นานแล้ว

โดยที่ พล.อ.อ.จอม ก็เป็นเตรียมทหาร 16 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อ.ศิวเกียรติ และ พล.อ.อ.ถาวร ด้วยนั่นเอง

แต่เพราะข่าวบางกระแส ใน ตท.16 ติงว่า พล.อ.อ.จอม อาจมีบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะที่จะเป็น ผบ.ทอ. แถมเป็นแนวบุ๋น ไม่ใช่แนวบู๊ หรือสายคอมแมนเดอร์ อาจด้วยเพราะเป็นนักเรียนนอก จบจากนายเรืออากาศญี่ปุ่น

อันที่จริง ใน ตท.16 ที่เป็นคนใน ทอ. นั้น ก็ยังมีเต็งสอง อย่าง บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.อ.สุทธิพันธุ์ กฤษณะคุปต์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. อีกคน ที่ทำให้คนใน ทอ. ไม่คิดว่าเก้าอี้นี้จะหลุดไปถึง พล.อ.อ.ศิวเกียรติ

“เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะฟัง ผบ.ทอ. ที่จะต้องเสนอชื่อคนที่มีความเหมาะสมที่สุด เพราะคนใน ทอ. เท่านั้นที่จะรู้ดีว่า ใครเหมาะ หรือใครไม่เหมาะสม” ขุมข่าวใกล้ชิด ผบ.ทอ. ระบุ

อีกทั้งในเวลานี้ พล.อ.อ.จอม ก็ดูจะมีการเตรียมตัว เตรียมพร้อมที่จะรับหน้าที่ ผบ.ทอ. ต่อจาก พล.อ.อ.ตรีทศ และเป็นที่รับรู้กันกลายๆ ใน ทอ.

จนคาดกันว่า หาก พล.อ.อ.ศิวเกียรติ พลาดเก้าอี้ ผบ.ทอ. ในคราวนี้ อาจจะชิงเก้าอี้ปลัดกลาโหมแทน เพราะเป็นตำแหน่งที่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะ รมว.กลาโหม เลือกเองได้โดยตรง ไม่ต้องปรึกษาใคร และไม่ต้องยึดตามที่ บิ๊กติ๊ก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกลาโหม ที่จะเกษียณกันยายนนี้เช่นกัน เสนอมา

เพราะตามไลน์แล้ว บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกลาโหม ก็ถือว่าเหมาะสมที่สุด เพราะคุมงานสำคัญๆ มาตลอด

แต่ก็มีประวัติศาสตร์มาแล้วหลายครั้งที่คนอกหักจาก ผบ.ทบ. จะได้มาเป็นปลัดกลาโหม แม้จะมาจาก พล.อ. ธรรมดา ไม่ต้องครองอัตราจอมพลก่อน ตั้งแต่ บิ๊กเล็ก พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ที่ขยับจาก ผช.ผบ.ทบ. มาเป็นปลัดกลาโหม

เช่นเดียวกับ พล.อ.ปรีชา ที่ก็มาจาก ผช.ผบ.ทบ.

ดังนั้น หาก พล.อ.พิสิทธิ์ เกิดพลาดหวังจริงๆ ก็อาจจะได้มานั่งเก้าอี้ปลัดกลาโหม

เช่นเดียวกับ พล.อ.เฉลิมชัย ที่หากไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. ก็อาจจะมาเป็นปลัดกลาโหม เพื่อปลอบใจ แต่ก็จะเป็นยาวถึง 2 ปี

เพราะเชื่อว่า บรรดาบิ๊กทหารที่ บก.กองทัพไทย ก็คงไม่อยากให้ พล.อ.เฉลิมชัย ข้ามไปเป็น รอง ผบ.สส. เพราะอายุราชการถึงกันยายน 2561 ก็จะสามารถชิงเก้าอี้ ผบ.สส. ได้ในกันยายน 2560 เมื่อ บิ๊กปุย พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ เสธ.ทหาร รุ่นพี่ ตท.15 ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็น ผบ.สส. โยกย้ายกันยายนนี้ เกษียณพอดี

แต่สะกิดกันว่า ให้ดูสีหน้าของ พล.อ.ประวิตร ในระยะหลังๆ นี้ ดูสบายใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น

หลังจากที่เคยพูดทีเล่นทีจริงกับนายกฯ ว่า อยากจะลาออก มาแล้ว

เพราะถึงยังไง บิ๊กตู่ ก็ยังคงต้องรัก เคารพ และเกรงใจบิ๊กป้อม พี่ใหญ่ อยู่วันยังค่ำ ในเมื่อขอให้มาช่วย และขอให้มาเป็น รมว.กลาโหม ถ้าไม่ให้จัดกองทัพเอง เลือก ผบ.ทบ. เลือก ผบ.เหล่าทัพ เอง แล้วจะเป็น รมว.กลาโหม ไปเพื่อ…??

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image