ชัยชนะของ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ต่อ นายธนิก มาลีพิทักษ์ ในการเลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่น สะท้อนให้เห็นลักษณะ “รุก” อย่างต่อเนื่องในทางการเมือง
เป็นการขยายผลจากชัยชนะในการคว่ำญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44
อันก่อให้เกิดสถานการณ์ 10 งูเห่า
งูเห่าอันประกอบด้วย 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 4 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 ส.ส.พรรคประชาชาติ
ขณะเดียวกัน เป็นการขยายผลและเก็บรับบทเรียนอันมีบทบาท และความหมายเป็นอย่างสูงจากชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม
นั่นก็โดยการใช้กลไกแห่ง “อำนาจรัฐ” อย่างเต็มพิกัด
ไม่ว่าการต่อสู้ในการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม ไม่ว่าการต่อสู้ในการเลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่น
นั่นก็คือ การต่อสู้กับ “รัฐบาล” หรือเครือข่าย “รัฐบาล”
เด่นชัดยิ่งว่า การเลือกตั้งซ่อมที่สมุทรปราการ ที่กำแพงเพชร ก็จะเกิดสภาพการณ์และปรากฎการณ์อย่างเดียวกันกับที่ประสบในนครปฐม ในขอนแก่น
นั่นก็คือ ประสบกับการต่อสู้ในลักษณะ Proxy War
เพียงแต่จะปรากฏมาในรูปของพรรคพลังประชารัฐ ในรูปของพรรคภูมิใจไทย ในรูปของพรรคชาติไทยพัฒนา และในรูปของพรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้น
ความพ่ายแพ้ที่นครปฐมจึงสามารถเข้าใจได้ ความพ่ายแพ้ที่ขอนแก่นจึงสามารถเข้าใจได้
คำถามก็คือ ฝ่ายค้านจะเตรียมรับมืออย่างไร
ปมเงื่อนก็คือ สถานการณ์การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่เหมือนกับสถานการณ์การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
เพราะนี่คือผลพวงแห่งรัฐประหารเมื่อปี 2557
เป็นการสรุปบทเรียนจากรัฐประหารเมื่อปี 2549 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อันถือว่า “เสียของ”
ระดับความเหี้ยมหาญทางการเมืองจึงแตกต่างกัน
คำถามก็คือ พรรคฝ่ายค้าน ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ ประเมินสภาพการณ์อย่างไร
ยอมรับหรือไม่ว่า นี่คือการต่อสู้ นี่คือสงคราม
