เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่ร้านอาหารชายหาด หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กรรมการบริหารพรรค เดินทางไปพบปะสมาชิกของพรรค รปช. โดยมีชาวบ้านประมาณ 300 คนพร้อมด้วยสมาชิกของพรรคในพื้นที่ และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง มารอให้การต้อนรับ
นายสุเทพ กล่าวว่าวันนี้ เป็นกิจกรรมของพรรค รปช.เพื่อทำความเข้าใจถึงอุดมการณ์ของพรรค ไม่ได้เป็นการเตรียมคนเพื่อไปต่อสู้ทางการเมืองกับใคร ส่วนประเด็นต่อต้านคนชังชาติ มอบหมายให้ นพ.วรงค์ เป็นผู้พูด ส่วนตนจะพูดถึงเรื่องอุดมการณ์ของพรรค รปช.เท่านั้น กรณีที่นายธนาธรประกาศว่าจะนำชาวบ้านลงถนน ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อหวังพลังประชาชน เข้ามาช่วยเหลือตัวเองในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายก็ไม่สมควรทำ ประเด็นเหล่านี้ไม่เคยมีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะหน้าที่นายกฯ คือการดูแลบ้านเมือง ส่วนตนจะทำงานในพรรคการเมือง และคิดว่ายังไม่ควรมีการยุบสภา เพราะรัฐบาลยังมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และมีความสามารถที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ส่วนเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีพฤติกรรมอย่างไรในรัฐบาลชุดนี้ ก็เป็นเรื่องของพรรค ปชป. และเป็นเรื่องการตัดสินใจของประชาชน
ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า มีการวางแผนรณรงค์ไว้คือที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา และจะไปสิ้นสุดที่กรุงเทพฯ เป้าหมายหลักๆ คือการให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องของการชังชาติ เพราะสิ่งเหล่านี้คือภัยของความมั่นคงประเทศ ตนไม่มีเจตนาที่จะไปสู้รบกับใคร ต้องการให้ความรู้กับประชาชนด้านสถานการณ์ และไม่คิดจะต่อต้านนายธนาธรโดยตรง เพียงแต่จะให้ความรู้ที่เป็นจริงแก่ประชาชนเท่านั้น หากมีการนำคนเดินลงถนนจริงๆ ก็จะไม่มีการนำคนไปปะทะโดยตรง ถึงแม้จะมีการพยายามทำให้เกิดการปะทะกัน แต่ตนไม่เห็นด้วย ทุกเวทีของตนจะเป็นการจัดในสถานที่ปิด ส่วนนายธนาธรจะนำชาวบ้านลงถนนเป็นสิทธิ์ของเขา และนายธนาธรนั้นจะอยู่ในขบวนการของระบอบทักษิณหรือไม่ คิดว่าทั้งสองคนน่าจะเป็นแนวร่วมกัน แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความชอบธรรมและสถานการณ์ของประเทศ นอกจากจะเป็นการหลอกลวงกลุ่มเยาวชนที่ยังไม่มีความรู้เท่าทัน จึงอยากจะบอกเยาวชนว่าอย่าไปเป็นเหยื่อของพวกเขา ในส่วนของรัฐบาลคิดว่าน่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ ส่วนที่ตนออกมาทำกิจกรรมเช่นนี้ ก็ด้วยความสำนึกที่มีต่อประเทศชาติ เพราะประเทศของเรากำลังมีความเสี่ยงด้วยลัทธิชังชาติ จึงจำเป็นต้องออกมาให้ความรู้ประชาชนโดยยึดหลัก สันติและสงบ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด
