ปิดประเทศด้วยSingleGateway สร้างความกลัวด้วยความกลัว
กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นสะเทือนทุกวงการสำหรับข่าวคราวกรณีการจัดตั้ง “ซิงเกิล เกตเวย์” (Single gateway) ขึ้นในไทย หลังจากที่ภาครัฐได้ออกเอกสารข้อสั่งการของนายกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพบว่ารัฐบาลพยายามผลักดันการจัดตั้งซิงเกิล เกตเวย์ โดยมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดูแล
เดิมประเทศไทยมีเกตเวย์หลายช่องทางกว่า10 แหล่ง ทำให้ข้อมูลจากต่างประเทศเข้าง่าย-ออกง่าย แต่ก็มีข้อเสียคือการควบคุมข้อมูลการเข้าถึงต่างๆทำได้ลำบากแต่การจัดตั้งซิงเกิล เกตเวย์นั้นจะเป็นช่องทางประตูเดียว ซึ่งมีทั้งข้อดี-และข้อเสียคือภาครัฐเองก็สามารถคัดกรองข้อมูลต่างๆในโลกออนไลน์ที่ไม่ดีต่อประชาชนหรือต่อรัฐได้แต่ในแง่ของเทคโนโลยีก็ยังมีประเด็นว่าความสามารถในการป้องกันการถูกแฮ็คมีมากน้อยแค่ไหนหากระบบดังกล่าวล่มก็จะไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตกันได้ทั้งประเทศรวมไปถึงข้อกังขอในมุมของความปลอดภัยการถูกดักจับถูกล้วงข้อมูลด้วย
ในมุมรัฐศาสตร์นั้น พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์มองว่าแม้ว่ารัฐบาลจะออกมาบอกว่าการจัดตั้งซิงเกิลเกตเวย์เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีแต่ความเป็นจริงแล้วนี่คือข้ออ้างเชิงอำนาจเป็นข้ออ้างที่เกี่ยวพันกับวิธีคิดแบบราชการ คือการต้องการควบคุมอนุมัติในทุกเรื่องด้วยการสร้างองค์กรใหม่ขึ้นมาเพื่อครอบสิ่งที่มีอยู่ไปเรื่อยๆเพื่อให้รัฐเกิดความรู้สึกมั่นคง
เพราะก่อนหน้านี้รัฐเองก็ได้พยายามควบคุมเนื้อหาและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอยู่แล้วแต่ใช้วิธีการขอความร่วมมือจากเกตเวย์ต่างๆด้วยการส่งรายชื่อเว็บไซต์หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสมให้กับเกตเวย์เดิมเพื่อช่วยปิดกั้นข้อมูลหรือเว็บไซต์เหล่านั้นแต่การมีซิงเกิลเกตเวย์นั้นทำให้ช่องทางการสื่อสารกับต่างชาติกับโลกออนไลน์ของไทยต้องผ่านเพียงช่องทางเดียว
ใจความสำคัญนี่คือการทำลายล้างระบบคิดที่ว่าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้นจะต้องพัฒนาว่าทำอย่างไรให้เมื่อช่องทางใดช่องทางหนึ่งที่ใช้งานไม่ได้แต่จะมีวิธีการใช้ช่องทางอื่นเพื่อให้ยังคงสามารถเชื่อมต่ออินเตรอ์เน็ตได้ซึ่งการมีซิงเกิล เกตเวย์จึงเป็นเหมือนการทำลายแนวคิดการพัฒนาระบบเชื่อมต่อออนไลน์ไปทั้งหมด
ขณะที่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ มองว่านโยบายดังกล่าวนั้นมีการใช้งานบ้างในบางประเทศแต่ที่เห็นได้ชัดคือในประเทศจีน ที่มีการใช้งานซิงเกิลเกตเวย์เพื่อให้ผลทั้งด้านความมั่นคง และ การปกป้องระบบเศรษฐกิจที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนโดยคนในชาติซึ่งรัฐบาลจีนสามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่แต่ในขณะที่ประเทศไทย
หากมีการจัดตั้งซิงเกล เกตเวย์ก็คาดว่าจะมีผลกระทบในด้านเศรษฐกิจในแง่มุมของการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะทำธุรกิจในไทยเนื่องจากมีความกังวลว่าหากไทยมีช่องทางติดต่อกับโลกภายนอกเพียงช่องทางเดียวหากรัฐมีการปิดกั้นหรือระบบล่มก็จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างแน่นอน
หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนหรือเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริงจึงเสนอว่าควรจะทำเกตเวย์พิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย หรือผู้ที่ไม่มีเงินทุนให้สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้มากขึ้น
จนถึงวันนี้เรื่องดังกล่าวก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องและดูเหมือนเสียงส่วนใหญ่จะไปในทางแง่ลบต่อซิงเกิลเกตเวย์มากกว่าเพราะอย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลเปิดกว้างให้ประชาชนการสนับสนุนประชาธิปไตยในระยะยาวมันมีความแข็งแรงมากกว่าการควบรวมอำนวจทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จอยู่ในมือคนคนเดียว
ติดตามรายการ “The Hel(l)met Show หมวกกันน็อค” ได้ทางมติชนออนไลน์ หรือ ทางช่องทาง Youtube ในช่อง MatichonTV วันจันทร์ – พุธ – ศุกร์ 18.00น.
ดำเนินรายการโดย “ไบค์เกอร์หนุ่มใหญ่” ที่สลัดคราบอาจารย์นักวิชาการ “พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์”
“เจ้าของร้านกาแฟนักปั่นย่านสุขุมวิท” จากอดีตนักการเมืองที่ช่วงนี้ต้องพักงาน “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ”
Don’t be insane protect your brain !!!
รักสมอง…ลอง “หมวกกันน็อค” !?
