เมื่อวันที่ 29 มกราคม นาย อุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. เปิดเผยว่า รัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ไม่ได้ระบุการดำเนินการบางอย่างเอาไว้ หากเกิดกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติ ซึ่งต่างจากกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา ปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่รัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ได้กำหนดให้มีการตั้งกรธ.จำนวน 21 คน ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงจะเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หาก ประชามติไม่ผ่าน ก็ต้องใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ไปก่อน ส่วนจะไปกำหนดกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับคสช.
นาย อุดม กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดแนวทางการปฏิรูปตำรวจเอาไว้ในมาตรา 268 มีเนื้อหาโดยสรุปว่า “ให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจให้เหมาะสม และแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิด ประสิทธิภาพมีหลักประกันว่าข้าราชการตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย และการพิจารณาบำเหน็จความชอบ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีอิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีประสิทธิภาพและภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว ให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดำเนินการตามลำดับอาวุโส”
นาย อุดม กล่าวว่า สาเหตุที่กรธ.กำหนดเรื่องการปฏิรูปตำรวจดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้เกิดระบคุณธรรมในการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องการให้เกิดการเล่นพรรคเล่นพวก และหากยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้อง จะต้องใช้ระบบอาวุโสในการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นหลัก